ดหมายข่าวเสขิยธรรม” ฉบับนี้ถึงมือผู้อ่านช้าเช่นเดียวกับฉบับที่ผ่านมา เป็นความล่าช้าครั้งที่ ๒ ของปี ๒๕๔๖ ด้วยเหตุผลของ “ความเปลี่ยนแปลง” หลายอย่างที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดขึ้นทั้งเหตุปัจจัยภายนอก และภายในกลุ่มเสขิยธรรมเอง…
ด้านหนึ่ง คณะกรรมการศาสนาเพื่อการพัฒนา (ปัจจุบันยุติบทบาทและงานด้านศาสนาลง หันไปทำงานด้านการศึกษาทางเลือก ในนาม “เสมสิกขาลัย” อย่างเต็มตัว) ได้ยุติการสนับสนุนเงินทุน ทั้งในการทำกิจกรรมของกลุ่มเสขิยธรรม และการจัดเตรียมต้นฉบับ – การจัดพิมพ์ “จดหมายข่าวเสขิยธรรม” ลงอย่างสิ้นเชิง
อีกด้านหนึ่ง สายส่งสุขภาพใจ แจ้งขอยุติการจัดจำหน่าย “จดหมายข่าวเสขิยธรรม” ตั้งแต่ฉบับที่ ๕๙ (ฉบับแรกของปี ๒๕๔๗) ด้วยเหตุผลความไม่คุ้มค่าทางธุรกิจ
ขณะที่ปัญหาด้านการจัดการภายใน ทั้งของกลุ่มเสขิยธรรม และของจดหมายข่าวเสขิยธรรม ซึ่งยังอยู่ในช่วงปรับตัวและปรับรูปแบบการทำงาน ตามสภาพการณ์ที่เหลือผู้ประสานงานเต็มเวลาเพียงคนเดียว กับอาสาสมัคร (มีงานประจำและหมุนเวียนแทบไม่ซ้ำหน้า…) ๒ – ๓ คน และกองบรรณาธิการที่เป็นพระภิกษุอีก ๔ – ๕ รูป ยังคงประดังกันเข้ามาอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
โดยที่ระยะที่ผ่านมา ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๔๕ เรามีกิจกรรมการเสวนา กิจกรรมระหว่างศาสนา การอบรม การภาวนา การประยุกต์ใช้ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม ตลอดจนการเข้าร่วมใน “ประเด็นร้อน” ของศาสนิกชนผู้ด้อยโอกาส และกิจกรรมประชุมพบปะระหว่างสมาชิกกลุ่มเสขิยธรรมเองอยู่ในแทบทุกเดือน
ผลก็คือ ฉบับที่แล้ว (๕๖) เราทำรายชื่อสมาชิกตกหล่น จนไม่สามารถส่งถึงมือไปกว่า ๑๕๐ ราย พร้อม ๆ กับจำนวนสมาชิกใหม่ไม่อาจกระเตื้องขึ้นได้ เพราะเวลาของการ “หาสมาชิก” ถูกกิจกรรมและงานอื่น ๆ เบียดบังไปเสียเป็นส่วนใหญ่
แต่นั่นยังไม่ใช่ “ปัญหาใหญ่” เท่ากับที่เราเหลือ “เงินทุน” เพียงพอต่อการทำกิจกรรมและการทำจดหมายข่าวได้อีกเพียง ๑ ปี (๔ ฉบับ) เท่านั้น !
งวินาทีนี้ กำลังใจและความมุ่งมั่น ตลอดจนความร่วมมือและความตั้งใจอันดีระหว่างพุทธบริษัท (และเพื่อนศาสนิกศาสนาอื่น ๆ) กลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มนี้ ยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เรายังศรัทธาและเชื่อมั่น ว่าได้ก้าวเดินมาในแนวทางที่ถูกต้อง ทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตและสังคมในหลายระดับ แม้ว่าถึงบัดนี้ผลตอบแทนในระบบธุรกิจของ “จดหมายข่าวเสขิยธรรม” ยังไม่สามารถหล่อเลี้ยงและขับเคลื่อนตัวมันเอง ตลอดจนกลุ่มเสขิยธรรมได้อย่างเต็มที่ก็ตาม บางท่านเสนอให้ลดกิจกรรมของกลุ่มฯ อีกทั้งลดเนื้อหาและคุณภาพของ “จดหมายข่าวเสขิยธรรม” ลง แต่เรายังไม่เห็นด้วย และไม่เชื่อว่านั่นคือทางออกที่ดีที่สุด ด้วยเหตุว่า หากสิ่งที่เราทำมาแล้ว และกำลังกระทำอยู่มี “ประโยชน์” จริง เราน่าจะได้รับการโอบอุ้มและสนับสนุนจากสมาชิก และสังคม กระทั่งเลี้ยงตัวเองได้…
และหากถึงที่สุด เมื่อหมดทุน (และหมดโอกาสในการทำงาน) เราก็น่าจะจากเพื่อนสมาชิกกลุ่มเสขิยธรรม และจากท่านผู้อ่าน ไปพร้อม ๆ กับ “ผลงาน” ที่ได้ทุ่มเทแล้ว อย่างสุดจิตสุดใจ
กล่าวมาข้างต้น คือเหตุผลและความรู้สึกของคนทำงานกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มนี้ ที่ส่งคำชี้แจง ร้องขอ และวิงวอนมายังท่าน ว่า… หากเห็นว่าเรายังพอมีคุณค่า และมีคุณประโยชน์อยู่บ้าง ขออย่าได้ละเลยต่อการสนับสนุนกลุ่มเสขิยธรรม และ “จดหมายข่าวเสขิยธรรม” ตามศรัทธาและกำลังที่ท่านมี โดย…
๑.แนะนำสมาชิกใหม่ ท่านละ ๓ ราย โดยถ่ายเอกสารใบสมัครจากในเล่ม แล้วช่วยหาสมาชิก หรือส่งรายชื่อผู้ที่ท่านเห็นว่าเราควรติดต่อ มายังฝ่ายสมาชิก “จดหมายข่าวเสขิยธรรม”
๒.สั่งซื้อ “จดหมายข่าวเสขิยธรรม” ในราคาลด ๔๐% ไปจำหน่าย หรือแจกจ่ายในโอกาสต่าง ๆ
๓.ติดต่อลงโฆษณา หรือช่วยหาโฆษณาเพื่อสนับสนุน “จดหมายข่าวเสขิยธรรม”
๔.ร่วมตั้งกองทุนเพื่อการจัดพิมพ์ “จดหมายข่าวเสขิยธรรม” กองทุนละ ๑,๐๐๐ บาท โดยทางกองบรรณาธิการจะจัดหาหนังสือตอบแทนให้ท่านในมูลค่าเท่ากัน (ตามราคาปก)
๕.ร่วมบริจาค (ทั้งหมดหรือสมทบบางส่วน) เพื่อสนับสนุนจัดกิจกรรม เสวนา – อภิปราย ของกลุ่มเสขิยธรรม กิจกรรมละ ๑๕,๐๐๐ บาท
๖.ร่วมบริจาค (ทั้งหมดหรือสมทบบางส่วน) เพื่อสนับสนุนจัดการอบรมให้กับพระภิกษุ – แม่ชี กิจกรรมละ ๒๕,๐๐๐ บาท
๗.บริจาคเข้า “กองทุนเสขิยธรรม” ตามกำลังศรัทธา
วังเป็นอย่างยิ่งว่ากลุ่มเสขิยธรรม และ “จดหมายข่าวเสขิยธรรม” จะได้รับความอนุเคราะห์จากท่าน และมีโอกาสได้ร่วมงานฟื้นฟูและสืบอายุพระศาสนา ด้วยการประยุกต์ใช้ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคมกับท่านตลอดไป
ฉบับนี้เรานำเสนอ “ทศวรรษแห่งการจากไปของพุทธทาสภิกขุ” ก็ได้แต่หวังว่าจะมีโอกาสได้จัดทำฉบับ “๑๐๐ ปีชาตกาล” ของท่านอาจารย์ด้วยเช่นกัน...
ด้วยไมตรีจิต
บรรณาธิการ
|