เสขิยธรรม -
จดหมายข่าวเสขิยธรรม
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | แผนผังไซต์

เสขิยธรรม ฉบับที่ ๖๔
เมษายน - มิถุนายน ๒๕๔๘

มองอย่างพุทธ: ดู-ห-นั-ง
ประมวล เพ็งจันทร์

เดอะ เลตเตอร์ - จดหมายรัก

ผู้สร้าง :
ดวงกมล ลิ้มเจริญอำนวยการสร้าง
ผอูน จันทรศิริกำกับการแสดง

ผู้แสดง :
แอนทองประสมรับบทเป็นดิว
อรรถพรธีมากรรับบทเป็นต้น

เนื้อเรื่องย่อ :
          ดิว หญิงสาวจากกรุงเทพฯ พร้อมเกศเพื่อนสาว เดินทางมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพยายของดิว ที่อำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ และด้วยเหตุบังเอิญทำให้ได้พบและรู้จักกับ ต้น ชายหนุ่มชาวเชียงใหม่ ซึ่งทำงานอยู่ที่โครงการหลวงบนดอยสูง

          ต้นได้พาดิวและเพื่อนไปเที่ยวที่ทำงานของเขาบนยอดดอยและได้พาดิวไปชมต้นบ๊วย ซึ่งเป็นต้นไม้แห่งชีวิตของต้นที่พ่อของเขาปลูกไว้ เมื่อต้นเกิดมาบนโลกใบนี้

          การพบปะกันโดยบังเอิญ เป็นจุดเริ่มต้นของสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งในเวลาต่อมา แม้ว่าต้นจะอยู่เชียงใหม่ และดิวอยู่ที่กรุงเทพ และเมื่อเกศ เพื่อนของดิวเสียชีวิตลง เพราะถูกฆาตกรรมโดยเพื่อนชายที่รู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต ทำให้ดิวเสียใจอย่างมาก และตัดสินใจหันหลังให้กรุงเทพ มุ่งหน้าไปสู่เชียงใหม่ เพื่อใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน ซึ่งยายทิ้งไว้ให้เป็นมรดก ณ ที่บ้านนอกซึ่งแวดล้อมด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและงดงาม ต้นรักก็ได้เจริญงอกงามขึ้นในใจของดิวและต้น ทั้งคู่ได้แต่งงานใช้ชีวิตคู่เป็นคู่ชีวิตของกันและกัน ชีวิตคู่ของทั้งสองเป็นไปด้วยความสดชื่นและเต็มเปี่ยมด้วยรสหวานแห่งรัก ดิวพยายามสอนให้ต้นใช้ E-mail เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันในยามที่ต้องแยกจากกัน

          วันหนึ่งต้นได้ค้นพบจดหมายรักที่ยายของดิว ซึ่งเป็นผู้เก็บรักษาไว้ เนื้อความในจดหมายฉบับนั้น ชายอันเป็นสุดที่รักของยายเขียนบรรยายอารมณ์ความรักไว้เป็นเนื้อความแห่งรักที่ประทับใจต้นและดิวยิ่งนัก ต้นปรารถนาที่จะติดต่อสื่อสารกับดิวด้วยจดหมายรักแบบนั้นบ้าง ด้วยเหตุผลที่ว่า การเขียนจดหมายจะมีความหมายที่มั่นคงมากกว่า E-mail ที่เพียงแค่กระแสไฟฟ้าหยุดไปช่วงขณะสั้นๆ เนื้อความแห่งรักที่บันทึกไว้โดย E-mail ก็ลบหายแล้ว แต่จดหมายรักที่เขียนไว้เป็นลายมือ แม้ว่าผู้เขียนและผู้รับได้ตายจากไปนานแล้ว เนื้อความเแห่งรักในจดหมายยังสถิตคงดำรงอยู่ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสรับรู้ได้ ดังเช่นที่ต้นและดิวได้สัมผัสรู้ถึงความรักของบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว

          ดิวและต้นใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไม่นาน เหตุร้ายก็ได้มาเยือน เมื่อต้นป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดสมอง ดิวได้ดูแลต้นอย่างดี แม้ว่าบางขณะต้องเดินทางลงมากรุงเทพ เพื่อติดต่องาน ที่สุด ความตายก็พรากชีวิตต้นไปจากดิว ขณะที่ดิวกำลังอ่านจดหมายรักของยายให้ต้นฟัง

          ชีวิตคู่ที่เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว ทำให้ดิวไม่สามารถทนอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมที่เชียงใหม่ได้ เพื่อน ๆ ของดิวจากกรุงเทพฯ ขึ้นมารับดิวลงไปอยู่ที่กรุงเทพ แต่ว่าขณะที่กำลังเดินทางออกจากบ้านอันเป็นรังรักของดิวและต้น ดิวได้รับจดหมายรักจากต้นที่เขียนไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต จดหมายรักของต้นทำให้ดิวยกเลิกการเดินทางไปอยู่กรุงเทพฯ และตกลงใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ ณ ที่เดิมต่อไป เพื่อรอรับและอ่านจดหมายจากต้น

          จดหมายรักฉบับแล้ว ฉบับเล่า ที่ได้รับทำให้ดิวได้ประจักษ์ชัดในความหมายแห่งรักที่แม้ว่าชีวิตของต้นได้จบสิ้นไปแล้ว แต่ความหมายแห่งรักของต้นยังมั่นคงและดำรงอยู่

          จดหมายรักของต้นทำให้ชีวิตของดิวที่เหลืออยู่มีความหมายและคุณค่า โดยเฉพาะเมื่อดิวได้มารู้ว่าได้มีชีวิตใหม่เกิดขึ้นในครรภ์เธอ เป็นชีวิตใหม่ที่เป็นพยายานแห่งรักระหว่างเธอและต้น

          ภาพยนตร์จบลงด้วยภาพแห่งขุนเขาที่ต้นบ๊วย อันเป็นต้นไม้แห่งชีวิตของต้นยืนตระหง่านอยู่บนยอดดอยสูง และเคียงข้างต้นบ๊วยใหญ่ตั้นไม้มีต้นบ๊วยต้นน้อยๆ อีกต้นหนึ่งงอกงามขึ้นมาเคียงคู่ ดิวและเด็กผู้ชายตัวน้อย ๆ กำลังรดน้ำให้ต้นบ๊วย

          ต้นน้อยอยู่ ดิวบอกให้ตั้มลูกชายของเธอรู้ว่า บ๊วยต้นน้อยตัดต่อมาจากบ๊วยต้นใหญ่ และต้นไม้น้อยใหญ่ในป่าดงพงไพรล้วนเป็นสายพันธุ์ที่สืบต่อและอาศัยกัน ต้นไม้เหล่านี้รวมกันเป็นขุนเขาลำเนาไพร ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสภาพชีวิตที่อิงอาศัยซึ่งกันและกัน และมีความเกื้อกูลต่อกันและกัน

 

ความรักแบบหญิง
ที่ถูกใส่ซองเปิดผนึกได้

          จดหมายรัก นับเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก และเรื่องเดียวที่ผู้เขียน ชมแล้วได้บอกใครต่อใครให้ไปชมต่อ ด้วยเหตุผลว่า นี่เป็นภาพยนตร์รักแบบหญิงเรื่องแรกของไทย

          ความจริงเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ไม่น่าจะแยกเพศเป็นหญิง เป็นชาย แต่เพื่อให้มีข้อกำหนดง่าย ๆ ในการอธิบายความหมายที่แตกต่างกัน การกำหนดให้มีความหมายเป็นหญิง เป็นชาย น่าจะช่วยให้ง่ายต่อการอธิบายความหมายแห่งรัก ที่แฝงอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้

          ความรักแบบชาย เป็นความรักที่ถูกอธิบายความหมาย ด้วยความคิดเชิงเหตุผล (Rationality) ที่มองเห็นความรักเป็นความสัมพันธ์ระหว่างปัจเจกบุคคล ที่มาผูกรักสัมพันธ์กันด้วยเงื่อนไขของการต่อสู้แข่งขัน ที่มีเดิมพันเป็นการแพ้หรือการชนะ เป็นการได้มาจากผู้อื่นหรือการเสียไปให้ผู้อื่น ในความหมายเช่นนี้ ความรักจึงเป็นความเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับความหมายว่าจะแพ้หรือชนะ จะสูญเสียไปหรือได้มา ความรักได้กลายเป็นเรื่องของอำนาจในการควบคุมกำกับผู้อื่น

          ความรักแบบหญิง เป็นความรักที่มีความหมายมาจากอารมณ์ความรู้สึก (Emotion) อันเป็นสภาวะภายในจิตใจของเราเอง เป็นความรู้สึกยินดีพอใจที่ได้ให้ได้แบ่งปันกับบุคคลอันเป็นที่รัก ความหมายของความรักจึงเป็นความเอื้ออาทร ที่ต้องอิงอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การแพ้หรือชนะผู้อื่น ไม่ใช่การสูญเสียไปหรือการได้มา

          ความรักแบบหญิงเป็นเรื่องราวของการเอื้อเฟื้อ เอื้ออาทร อันเป็นการรับใช้บุคคลอันเป็นที่รัก ขณะที่ความรักแบบชาย เป็นเรื่องของการต่อสู้แข่งขันอันมีความหมายเป็นความพ่ายแพ้หรือความมีชัย ที่ทำให้ความรักเป็นเรื่องของอำนาจที่จะครอบครองกำกับผู้อื่นให้เป็นไปตามความปรารถนาแห่งตน

          จดหมายรัก เริ่มต้นเรื่องราวด้วยการพาผู้ชมไปสัมผัสจุดเริ่มต้นแห่งรัก ด้วยภาพของความเอื้อเฟื้อที่ต้นพยายามขับรถปิคอัพ ตามรถทัวร์เพื่อนำกระเป๋าสตางค์ไปคืนให้แก่ดิว และเมื่อดิวและเกศตกรถเพราะไม่มีตั๋ว ก็เชิญชวนให้ทั้งคู่ฆ่าเวลาด้วยการไปเที่ยวชมโครงการหลวงที่ตนทำงานอยู่ รวมทั้งการพาดิวไปชมต้นบ๊วย ที่มีความหมายต่อชีวิตของตนเอง ภาพเหล่านี้เป็นภาพที่สวยงามทั้งในส่วนของทิวทัศน์ภายนอกและอารมณ์ภายใน หลังจากนั้น ภาพก็ตัดกลับมาสู่ความแตกต่างระหว่างความหมาย เป็นภาพชีวิตของดิวและเกศในกรุงเทพฯ เป็นภาพของการดิ้นรนต่อสู้แข่งขัน ภาพที่เกศติดต่อรู้จักกับเพื่อนชายทางอินเตอร์เน็ตโดยไม่รู้จักหน้าตาและภูมิหลัง ภาพของการหลอกล่อต่อสู้ซึ่งกันและกันโดยมีการโกหก การหลอกลวง เป็นเครื่องมือของการต่อสู้เพื่อให้ตนเองมีชัยเหนือคู่ต่อสู้ และในที่สุดเรื่องราวแห่งรักของเกศก็จบลงที่เธอถูกฆ่าตายโดยเพื่อนชายที่รู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต

          ภาพของเกศที่ถูกฆ่าตาย อาจจะดูเป็นความจงใจซึ่งง่ายเกินไปของผู้สร้างที่เสนอต่อผู้ชม แต่การนำภาพเช่นนั้นมาเสนอ เพื่อจูงอารมณ์ของผู้ชมไปสู่ความหมายแห่งรักของต้นและดิว ทำให้ความแตกต่างแห่งอารมณ์รักปรากฏชัดในความรู้สึกของผู้ชม เนื้อนัยแห่งความรักที่เกศแสวงหา ทำให้เกิดความหมายแห่งรักที่ดิวได้ประสบในเวลาต่อมา

          ภาพของเกศเป็นภาพของความรักแบบชายที่มองเห็นได้ในสังคมปัจจุบัน จนบุคคลทั่วไปเข้าใจความหมายแห่งรักเป็นความหลอกล่อต่อสู้แข่งขันที่มีการได้-เสีย ชนะ-แพ้ เป็นเงื่อนไข ของการต่อสู้ความหมายเช่นนี้ตอกย้ำให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงความเป็นจริงที่มีอยู่ ก่อนจะนำพาผู้ชมไปสัมผัสความหมายแห่งรักตามจินตนาการแห่งรักแบบหญิง

          ภาพของผู้ชายที่เข้าครัวต้มข้าว แล้วป้อนข้าวต้มให้ผู้หญิงยามเมื่อเธอป่วย

          ภาพของผู้ชายที่นั่งซักผ้าให้ผู้หญิงด้วยความเต็มอกเต็มใจ

          ภาพของผู้ชายที่หาน้ำอุ่นมาให้ผู้หญิงแช่เท้าแล้วนวดเท้าให้เธอเพื่อป้องกันเธอจากไข้หวัด

          เหล่านี้เป็นภาพของความเอื้ออาทรที่มีอยู่ภายในจิตใจแล้วแสดงออกมาเป็นการรับใช้ การรับใช้ซึ่งเป็นความหมายแห่งรัก เป็นภารกิจที่มีเกียรติและเต็มไปด้วยศักดิ์ศรี ความรักแบบหญิงเช่นนี้ถูกยกย่องบูชา เมื่อผู้หญิงในฐานแม่ปฏิบัติต่ออีกชีวิตหนึ่งซึ่งเป็นลูกของเธอ การรับใช้ซึ่งผู้หญิงผู้เป็นแม่ปฏิบัติเป็นภารกิจที่สูงส่ง อันแสดงออกซึ่งความหมายแห่งรักแบบหญิง

          ความรักแบบหญิง มิได้มีความหมายว่าเป็นความรักของสตรีเพศ แต่เป็นความรักที่เกิดขึ้นในจิตใจของผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ ขอเพียงแต่มีความหมายเป็นการรับใช้ด้วยจิตที่เอื้ออาทรต่อบุคคลอันเป็นที่รัก

          ในสังคมโลกปัจจุบัน ที่ผู้ชายมีอำนาจชี้นำกำกับทิศทางของสังคม ความรักแบบชายกลายเป็นความรักที่มีบทบาทอิทธิพลต่อความสำนึกรู้ของประชาชนในสังคม ความรักถูกอธิบายความหมายด้วยหลักเหตุผลแห่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ความรักถูกมองเห็นเป็นเกมการต่อสู้ที่มีแพ้-ชนะ เป็นเดิมพัน ความรักแบบหญิง ถูกมองว่าเหลวไหล ผู้ชายคนใดแสดงออกซึ่งความรักแบบหญิงจะถูกมองอย่างดูหมิ่นดูแคลนว่า ‘กลัวเมีย’

          ความหมายแห่งรักแบบหญิง ถูกซ่อนไว้ในความรู้สึก เหมือนจดหมายที่ถูกปิดผนึกเก็บไว้ในซองให้เป็นความลับส่วนตัวที่บุคคลอื่นจะมาล่วงรู้ไม่ได้ มีผู้ชมหลายท่านมีข้อสงสัยว่า ผู้ชายเช่นต้นมีอยู่จริงหรือในโลกปัจจุบัน ข้อสงสัยนี้มีทั้งในความรู้สึกของผู้หญิงและผู้ชาย และนี้คือประเด็นซึ่งเป็นความลับที่เก็บไว้ในจดหมายรัก

 

จดหมายรักที่ควรเปิดอ่าน
จดหมายรัก เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วย

          ภาพอันเป็นรูปธรรม เพื่อบอกเล่าเรื่องราวอันเป็นนามธรรม “ต้นไม้” เป็นรูปธรรมที่ถูกนำมาเสนอเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของ “ความรัก” ที่เป็นนามธรรม ความรู้ทางด้านการเกษตร ทำให้ต้นมีความสามารถในการเพาะพันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ บวกเข้ากับความใส่ใจบำรุงดูแลรดน้ำพรวนดิน เป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ในตัวต้นเพื่อจะบอกว่า เขาไม่ใช่จะมีความสามารถเฉพาะการเพาะพันธุ์ไม้เท่านั้น หากแต่เขายังมีความสามารถพิเศษ ที่จะเพาะต้นรักให้งอกงามในจิตใจด้วย ความรักเปรียบเหมือนต้นไม้ ที่ต้องใช้เวลาและองค์ประกอบหลาย ๆ ประการ ที่จะทำให้เจริญเติบโต ไม่มีต้นไม้ต้นใดที่จะเจริญเติบใหญ่ได้ภายในวันเดียว เวลาเป็นเงื่อนไขสำคัญของการเจริญเติบโต ยิ่งต้นไม้ใหญ่ยิ่งต้องอาศัยเวลาอันยาวนาน ความรักก็เป็นดังเช่นต้นไม้ที่ต้องอาศัยเวลา

          พันธุ์ไม้ทุกชนิด นอกจากต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตแล้ว ยังต้องอาศัยองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น ดิน, น้ำ, อากาศ, แสงสว่าง ฯลฯ ความพอเหมาะพอดีขององค์ประกอบเหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญทั้งสิ้น แม้พืชพันธุ์จะดีสักเพียงใด แต่หากขาดองค์ประกอบที่เหมาะสมเสียแล้ว การเจริญเติบโตก็เป็นไปไม่ได้ ความเป็นเช่นนี้ของต้นไม้เป็นฉันใด ความเป็นไปแห่งรักก็เป็นฉันนั้น

          ภาพของการรดน้ำต้นไม้ ปรากฏซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ในภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อจะเน้นย้ำให้เห็นว่า หากปราศจากการเอาใจใส่ดูแลแล้วต้นไม้ก็ต้องเหี่ยวเฉา เช่นเดียวกับความรัก หากขาดน้ำใจที่เอื้ออาทรต่อกันและกันแล้ว ความรักก็อับเฉา ทุกขณะแห่งรัก คู่รักจะต้องรินหลั่งน้ำใจให้แก่กันและกันตลอดเวลาทุกช่วงขณะจะขาดเสียมิได้

          ภาพของดิวและต้นที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นภาพของการรินหลั่งน้ำใจให้แก่กันและกัน เหมือนการรดน้ำต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ การมีน้ำใจให้แก่กันและกันจะเป็นไปได้อย่างไร หากแต่ละฝ่ายมุ่งหมายแต่ประโยชน์ส่วนตัวและการได้รับจากอีกฝ่าย การงอกงาม แห่งรักจะเป็นไปได้อย่างไร หากคู่รักต่างปรารถนาจะมีชัยเหนือคู่รัก ความสมบูรณ์แห่งรักจะเกิดขึ้นได้อย่างไร หากคู่รักต่างฝ่ายต่างปรารถนาจะมีอำนาจเหนืออีกฝ่ายหนึ่ง มีแต่การน้อมตัวลงรับใช้คู่รักด้วยจิตใจอันเอื้ออาทรเท่านั้นที่จะทำให้ต้นรักเจริญงอกงามเติบโต ทนทานต่อสายลมที่พัดกระหน่ำและแสงแดดที่แผดเผา

          ต้นรักที่งอกงาม เติบใหญ่ เป็นต้นรักที่พร้อมจะแตกกิ่งก้านสาขา ออกดอก ออกผล ขยายพืชพันธุ์ต่อไปไม่สิ้นสุด แม้ว่าต้นเดิมอาจจะสิ้นอายุขัยไปแล้วแต่หน่อหรือกิ่งก้านก็กลายเป็นต้นไม้ใหม่ต่อไป

          ความตายของต้นบนที่นอนใกล้ ๆ กับดิวที่นั่งอ่านจดหมายรักของยายให้ต้นฟัง ชีวิตของต้นจบลงขณะที่จดหมายรักยังไม่จบ ดิวได้อ่านจดหมายรักต่อไปจนจบโดยไม่ยุติการอ่านจดหมายรักแม้รู้ว่าชีวิตของคนรักจบลงแล้ว เหตุการณ์ในภาพยนตร์ตอนนี้เป็นความสวยงามอย่างไม่รู้จะบอกเล่าอย่างไร ให้ความหมายอันสวยงามนั้นปรากฏในใจของผู้อ่าน

          ความหมายแห่งรักในจดหมายช่างเป็นความหมายที่ยิ่งใหญ่ ความหมายอันยิ่งใหญ่นี้ ไม่สามารถจะทำให้สะดุดหยุดลงได้เพียงเพราะชีวิตหนึ่งยุติลง ชีวิตหนึ่งเกิดขึ้นดำรงอยู่ แล้วก็จบลงแต่ความหมายแห่งรักจะต้องคงอยู่ตลอดไป เพื่อเป็นสายใยยึดโยงให้ชีวิตในอดีตสัมพันธ์กับชีวิตในปัจจุบันและในอนาคต ชีวิตที่หลากหลาย กระจัดกระจายอยู่ตามถิ่นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตเล็ก ๆ เช่น มดปลวก หรือชีวิตที่ยิ่งใหญ่ดังชีวิตตนเอง ต่างยึดโยงสัมพันธ์กันได้ด้วยสายใยแห่งรัก

          ชีวิตของต้นจบลง ดิวจับลูกตุ้มนาฬิกาให้หยุดเพื่อบอกว่า เวลาแห่งรักจบแล้ว แต่เมื่อเธอได้อ่านจดหมายรักจากต้นที่เขียนไว้ก่อนเสียชีวิต ทำให้เธอได้รู้ว่า ความรักของต้นยังคงดำรงอยู่ แม้ว่าชีวิตของเขาจะสิ้นสุดไปแล้ว

          ดิวลุกขึ้นไปไขลานนาฬิกา เพื่อบอกว่าชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป เพราะความรักยังคงดำรงอยู่ไม่เคยจบสิ้นลง ที่สำคัญที่สุดก็คือ ความรักได้ให้กำเนิดชีวิตใหม่ ดิวรู้ว่าเธอตั้งครรภ์ กำลังจะมีลูก

          ต้นไม้ต้นแรก ๆ ของโลกคงล้มตายไปนานแล้วล่ะ แต่ต้นไม้ก็ยังมีอยู่บนโลกใบนี้ ต้นไม้เหล่านี้ล้วนสืบต่อพืชพันธุ์มาจากต้นไม้ที่ตายไปแล้ว เหมือนบรรพบุรุษของเราที่ตายจากไปแล้ว แต่ยังมีพวกเราที่เป็นลูกเป็นหลานสืบเผ่าพันธุ์ของท่านต่อมาและต่อไป

          จดหมายรักของต้นทำให้ดิวได้รู้ว่าความหมายแห่งรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร ความเอื้ออาทรของต้นเป็นพลังให้ดิวมีชีวิตอยู่ต่อไป เหมือนลูกที่ตระหนักรู้ถึงความรักของแม่ แล้วมีพลังจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อให้กำเนิดชีวิตใหม่ ชีวิตใหม่ที่มีสายใยแห่งรักผูกโยงให้เชื่อมต่อสัมพันธ์กันไม่มีสิ้นสุด

          ความรักแบบแม่อันเป็นความรักแบบหญิงมีอยู่ในจิตเราทุกคน เปิดอ่านดูเถิด แล้วเราจะพบความหมายแห่งรักที่แท้จริง ความหมายที่แท้จริงแห่งรักอยู่ที่การรับใช้ด้วยจิตใจที่เอื้ออาทรต่อผู้เป็นที่รัก ความรักแบบหญิงจะเกิดขึ้นในจิตใจได้ก็ต่อเมื่อ เราก้าวข้ามให้พ้นความหมายแห่งรักที่มีความหมายถึงการได้มาจากผู้อื่น การมีชัยชนะเหนือผู้อื่น

          ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เราผู้เป็นชาวพุทธทุกคนควรปลูกสร้างความรักแบบหญิงให้งอกงามในจิตของเรา...

หน้าแรก | กลุ่มเสขิยธรรม | ความเคลื่อนไหว | ประเด็นร้อน | ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
นักบวชกับสังคมร่วมสมัย |> จดหมายข่าวเสขิยธรรม | รวมเว็บน่าสนใจ | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม skyd.org
สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน

กลุ่มเสขิยธรรม ภายใต้มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ๑๔/๖๓ หมู่บ้านสวยริมธาร ๒ ซอย ๕
ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวง/เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐
โทร. ๐๒-๘๐๐-๖๕๒๖ ถึง ๘, ๐๖-๗๕๗-๕๑๕๖ โทรสาร ๐๒-๘๐๐-๖๕๔๙
... e-mail :