เสขิยธรรม -
จดหมายข่าวเสขิยธรรม
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม ฉบับที่ ๖๐
เมษายน - มิถุนายน ๒๕๔๗

ประยุกต์ธรรม

คนไม่ใกล้ไม่ไกล

ถ้าไม่ใช่ "ผ้าป่า" แล้วจะเอาไงดี?

 

          “ผ้าป่าสามัคคีแบบไทย ๆ” จะเกิดขึ้นแต่ครั้งไหน โดยวิธีใด หรือใครเป็นคนริเริ่ม... ไม่ใช่ประเด็น และไม่เป็นปัญหาทางวิชาการ จน “นักวิชาเกิน” ต้องลงทุนลงแรง “วิจัย” หาคำตอบ (ขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ หากเคยมีใครวิจัย หรือทำวิทยานิพนธ์, สารนิพนธ์ ประเด็นนี้ไว้ แต่ผู้เขียนไม่ทราบ...และบังเอิญไม่อยากทราบ—ฮา ! !)

          แต่ถึงบัดนี้ สำหรับ “คนชั้นกลาง” คำว่า “ผ้าป่า” กลายเป็น “คำหยาบ” (นัยว่าไม่น่าฟัง ไม่น่าพูดถึง) ไปเรียบร้อยแล้ว

          ส่วนคำว่า “ซองผ้าป่า” นั้นถึงขนาด “หยาบมาก” หรือ “หยาบที่สุด” ชนิด “ฟังไม่ได้..ไม่เอา..ไม่พูดดดด” (ยกมือปิดหู หลับตาปี๋ หย่อนตัวลงนั่งยอง ๆ พลางส่ายหน้าส่ายหัว..ผมกระจายยย…)

          ถ้าใครสักคนบอกเพื่อนในออฟฟิศชั้นยี่สิบกว่าบนอาคารริมถนนสีลม ว่าลองวีคเอนด์นี้จะไปเที่ยวกับคณะทอดผ้าป่าที่วัดบ้านโคกอีโด่ย เพื่อนร่วมสนทนาอาจเบิกตาโพลง เศษแฮมเบอร์เกอร์ที่กำลังเคี้ยวร่วงจากปาก… หรือไม่งั้นก็เหลือบมองเหยียดด้วยหางตา ค่าที่มัน “นอกเทรนด์” ขนาดหนัก

          คล้ายกับว่า ณ พ.ศ.นี้ สำหรับ คนรุ่นใหม่–คนชั้นกลาง จำนวนมาก “ผ้าป่า” เป็นเรื่อง “หลังเขา” นอกวงการ–ต่างวิถีชีวิต เอาเสียเหลือเกิน

          หลายคนคงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แท้ที่จริงแล้วก็ไม่ถึงกับรังเกียจรังงอนอะไรนักดอก โทนเสียงมันออกไปในทางเบื่อหน่ายเสียมากกว่า ประมาณว่า “โดนบ่อยอ่ะ..เดือนนี้แปดซองแล้วอ่ะ” อะไรทำนองนั้น

          ดูเหมือนคำว่า “ทำบุญ” หรือ “ร่วมทำบุญ” จะถูกภาพของการ “บังคับ–ขืนใจ” ด้วยวิธี “ยื่นซองไปตรงหน้า สบตานิ่ง พยักหน้าน้อย ๆ ” กลบทับไปเสียหมด

          ขณะเดียวกัน ภาพของการ “ร่วมแรง–ร่วมใจ–ร่วมลงขัน–ร่วมสามัคคี (ในงานบุญแบบไทย ๆ)” ดูจะไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของ “คนชั้นกลาง–คนรุ่นใหม่” อีกต่อไปแล้ว เหลืออยู่แต่ “อเมริกันแชร์” (ซึ่งแม้จะจ่ายเท่ากันแต่คิดดี ๆ ก็ไม่ “แฟร์” เท่าไหร่) ผุดขึ้นมาแทนที่

          บางคนบอกว่า น่าจะเป็นเพราะคนรุ่นใหม่ต้องการ “การมีส่วนร่วม” เมื่อตนไม่ได้ “ร่วมคิด” ตั้งแต่ต้น แต่มาถูกบีบทางอ้อมให้ “ร่วมทำบุญ” จึงรู้สึกอึดอัดขัดข้อง ด้วยความ “เกรงใจ” แบบไทย ๆ ที่ยังตกค้างอยู่ในดีเอ็นเอ

          ขณะเดียวกัน “ผู้สันทัดกรณี” บางคน ก็วิพากษ์ว่า เป็นเพราะ “คนรุ่นใหม่” มีความเป็นปัจเจกสูง ขาดจิตสาธารณะ ไร้สำนึกของการรวมหมู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การรวมหมู่” ที่ไกลหูไกลตา นอกรัศมีของครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนร่วมงาน

          “ว่าง่าย ๆ ก็คือ อะไรที่ไม่เกี่ยวกะกู กูไม่ยุ่ง.. ว่างั้นเถอะ” ผู้สอดรู้สอดเห็นอีกท่านหนึ่งสอดขึ้นเบา ๆ

          จะอย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อเหลียวมองให้ถ้วนทั่ว ก็พบเห็นได้ไม่ยาก ว่ามี “ประโยชน์สาธารณะ” ที่เกิดขึ้นได้ด้วย “วิธีระดมทุน–ระดมบุญ––แบบไทย ๆ ” ที่เรียกว่า “ผ้าป่า” อยู่เป็นจำนวนมาก ไม่นับโบสถ์–วิหาร–ศาลาการเปรียญ ก็ยังมีอาคารเรียน ตึกผู้ป่วยในโรงพยาบาล ศาลาอเนกประสงค์ประจำท้องถิ่น หรือกระทั่งเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์การศึกษา ตลอดจนทุนการศึกษาของนักเรียน–นักศึกษาผู้ด้อยโอกาสฯลฯ

          หากนับวัน “คนรุ่นใหม่” ทั้งหลายพากันรังเกียจรังงอน “วิธีการ” เช่น ผ้าป่าสามัคคี ไปเสียแล้ว จะมีวิธีการใดบ้างเล่า ที่จะรองรับ “การระดมทุน” เพื่อ “ประโยชน์สาธารณะ” อันเกิดจาก “จิตสำนึกร่วม” ชนิดที่ไม่ต้องรอ “ภาครัฐ” หรือผู้มีอำนาจเข้ามาบงการ…

          ไม่ต้องอิงพิธีกรรมศาสนาก็ได้ “โพสต์โมเดิร์น” ทั้งหลายช่วยออกเสียงที...

หน้าแรก | กลุ่มเสขิยธรรม | ความเคลื่อนไหว | ประเด็นร้อน | ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
นักบวชกับสังคมร่วมสมัย |> จดหมายข่าวเสขิยธรรม | รวมเว็บน่าสนใจ | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม skyd.org
สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน

กลุ่มเสขิยธรรม ภายใต้มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ๑๔/๖๓ หมู่บ้านสวยริมธาร ๒ ซอย ๕
ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวง/เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐
โทร. ๐๒-๘๐๐-๖๕๒๖ ถึง ๘, ๐๖-๗๕๗-๕๑๕๖ โทรสาร ๐๒-๘๐๐-๖๕๔๙
... e-mail :