สำหรับบางคน สามเดือนต้นปีนี้ผ่านไปรวดเร็วน่าใจหาย แทบไม่ได้ขยับตัว เวลาก็ล่วงผ่านเสียแล้ว
รัฐบาลดูจะประจักษ์แจ้งกับปรากฏการณ์นี้มากกว่าอีกหลาย ๆ ภาคส่วน เพราะความวัวยังไม่หาย ความควายก็เข้ามาแทรก จนละล้าละลังไปทั้งคณะ
ด่าทอโจรกระจอกภาคใต้ไม่ทันจบคำ ชักชวนคนไทยกินไก่ไทยอยู่หยก ๆ ทำท่าว่าจะฟื้นตัวเสียหน่อย อ้าว ! แพ้เลือกตั้งซ่อมซะอีกแล้ว ! ...
ออกตัวแก้ตัว ว่า.. ถึงแพ้ก็ได้คะแนนเพิ่ม ก็มาโดนสหภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและพันธมิตรโห่ร้องกลบไปเสียหมด
ได้แต่ร่วมปลงธรรมสังเวชกับ ท่านผู้นำ ว่า โลกธรรม ทั้ง ๘ เป็น อกาลิโก โดยแท้ โบราณจึงสอนนักสอนหนา ว่ายามรุ่งเรืองก็อย่าโอหังบังอาจ อย่าหลงระเริงไปกับอำนาจที่ตัวมั่นใจว่ามี ว่าเป็นลาภ ยศ สรรเสริญ สุข นั้น มีได้ก็เสื่อมได้เสมอ...
คอยดูไปเถิด พอถึง ขาลง เข้า ที่เคยหาวเป็นดาวเป็นเดือน ก็พาลจะเหลือแต่กลิ่นปากไปเสียฉิบ
วันวานโด่งดังเป็นพลุแตก ใครทักเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง วันนี้จึงต้องมานั่งอ้อม ๆ แอ้ม ๆ ถอยทางยุทธวิธี ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ควรตราไว้ด้วยว่า พลุที่สว่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่ดับเสียตั้งแต่บนฟ้าทั้งสิ้น หิ่งห้อยเสียอีกที่กระพริบอยู่ได้เนิ่นนานยิ่งกว่า...
........ ........ ........
เสขิยธรรม เอง ก็ผ่านไตรมาสแรกมาอย่างหายใจไม่ทั่วท้อง
สองสามปีมาแล้วที่ช่วงเวลา มกราคม มีนาคม กลายเป็นช่วงระดมทุนประจำปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจาก คณะกรรมการศาสนาเพื่อการพัฒนา เปลี่ยนไปเป็น ส่วนหนึ่งของ เสมสิกขาลัย ที่ทำให้ กลุ่มเสขิยธรรม ต้องหันมาระดมทุนดำเนินงานเองเป็นด้านหลัก
เราหันกลับมาหาวิธีการดั้งเดิมอย่างหนึ่งของชาวพุทธ แบบไทย ๆ คือจัด ทอดผ้าป่า ที่ผู้คนส่วนใหญ่เบื่อหน่าย และพากันร้อง ยี้ เมื่อใดก็ตามที่มีใครยื่นซองให้
แรกสุดที่ตัดสินใจจัด ผ้าป่าเสขิยธรรม แม้ฝ่ายผู้จัดเองก็มิได้มั่นอกมั่นใจอะไรนัก ว่าจะสามารถระดมทุนได้เท่าใดแน่ ด้วยว่า แม้ตนเองก็ปฏิเสธ ซองผ้าป่า มาแล้วนับไม่ถ้วน จนต้องสรรหา วิธีการ ร้อยแปดที่จะให้ได้มาซึ่ง ทุน โดยมิพักจะต้องบากหน้าออก เรี่ยไร
แต่แล้วบรรดา เทคนิค เหล่านั้น ก็ไม่อาจหนีความจริงไปได้ ว่า ผ้าป่าก็คือผ้าป่า การเรี่ยไรก็คือการเรี่ยไร
เป้าหมาย ต่างหาก ที่ควรแก่การทำความเข้าใจ และไปให้ถึง หาใช่ต้องมาถกแถลงให้เสียเวลาไปกับวิธีการเพียงประการเดียวไม่ และจะว่าไปแล้ว วิธีการเก่าแก่ที่คนรุ่นใหม่รังเกียจ บ่อยครั้งก็สามารถ รับใช้ เป้าหมายใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมอ ๆ
การอธิบายให้ชัด ว่าจะระดมทุนไป ทำอะไร และที่ผ่านมา ทำอะไร ไปบ้างแล้ว ด้วย เงิน ที่ท่าน ทำบุญ ต่างหาก ที่จะทำให้หลายคนยินดี ร่วมบุญ-ร่วมกุศล กับ กลุ่มเสขิยธรรม
ปี ๒๕๔๗ นี้ เราระดมทุนด้วย ผ้าป่าเสขิยธรรม ได้กว่าสี่แสนสามหมื่นบาท นั่นหมายความว่า หาก สันโดษ ในการบริหารงบประมาณ ดำเนินงาน และจัดกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยความประหยัด เราอาจมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการประยุกต์ใช้ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคมไปอีก ๑ ปีเต็ม
พูดไปก็เหมือนตลกร้าย ที่กลุ่มกิจกรรมด้านศาสนาอย่าง เสขิยธรรม ต้องหัวซุกหัวซุนระดมทุนดำเนินการ ซึ่งปีหนึ่งใช้เงินน้อยกว่าค่าเวลาโฆษณาสินค้าบริโภคนิยมในช่วง prime time ของโทรทัศน์ เพียง ๕ นาที !! หรือกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ก็พอจะกล่าวได้ว่า เราใช้เงินทำกิจกรรมประมาณปีครึ่ง จึงจะเท่ากับราคากล้องถ่ายภาพของบุตรชายท่านนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
นี่คือความจริงของโลก
โลกที่ยังมีคนทุกข์โศก และผู้คนจำนวนมากยังเรียกหาศาสนธรรม ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตจริง โดยมิได้ร่วม ลงทุน ลงแรง กันสักเท่าใดนัก...
........ ........ ........
ปี ๒๕๔๗ นี้ ดูราวกับว่า ทั้งศาสนจักร และอาณาจักร ยังคงวุ่นวายไปกับ โลกธรรม อย่างเผลอใจ ไม่เท่าทันจิต อีกทั้งไม่ตระหนักถึงธรรมชาติซึ่งผันแปรไป กระแสแห่ง โลกียวิสัย ไหลลงต่ำกระหน่ำท่วม จนดูราวกับว่า กระแส โลกุตรธรรม นานไปก็ยากยิ่งจะย้อนทวน...
เสขิยธรรม ฉบับนี้ นำเสนอเรื่องราวของ แม่น้ำโขง และ ธรรมยาตรา..รักษาลำน้ำโขง ในบางแง่มุม เท่าที่จะมีเนื้อที่เอื้ออำนวย
ด้านหนึ่งก็อยากเสนอข้อมูลให้ผู้อ่านได้ร่วมรับรู้ และตื่นตัวถึงมหันตภัยที่มหาอำนาจในภูมิภาคกำลังจะหยิบยื่นให้ ด้วยการ ฆาตกรรมมารดาแห่งอุษาคเนย์ สายนี้ ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ก็อยากจะบอกกล่าวกับชาวพุทธ แบบไทย ๆ ว่ายังมีเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญไปกว่า การแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่พระสังฆราช อีกมากมายนัก
ว่าก็ว่าเถอะ ทั้งพระบ้านพระป่าไม่คิดจะลืมหูลืมตา คิดเรื่องใหญ่ ๆ แทนที่จะคัดค้าน คุณวิษณุ เครืองาม กันบ้างหรือ ?..