จดหมายข่าว เสขิยธรรม ฉบับที่ ๕๘ นี้ คงถึงมือท่านผู้อ่านประมาณปลายพรรษา หรือหลังจากออกพรรษาแล้วไม่นานนัก ตามระยะทางใกล้ไกล และความยากง่ายของระบบขนส่งทางไปรษณีย์ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ ฉบับนี้เราออกได้ตามกำหนด หลังจากต้องปรับตัวหลายอย่าง ในรอบ ๖ เดือนที่ผ่านมา
ระยะพรรษากาลกิจกรรมของกลุ่มฯ ส่วนใหญ่ชะลอตัวลง เพื่อเอื้อเฟื้อต่อพระวินัย และเปิดโอกาสให้เพื่อนสมาชิกได้ใช้เวลากับการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการ ภาวนา ซึ่งมักเป็นจุดอ่อนของ พระ แม่ชี นักพัฒนา ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ แต่ที่น่าตั้งข้อสงสัยย้อนกลับไปด้วยก็คือ คนที่ว่า ๆ ทัก ๆ อย่างนั้น เอาเข้าจริงเป็น นักภาวนา กันสักกี่คน (ท่าน) ก็ไม่ทราบ เพราะจะว่าไปแล้ว ตัวจริง มักไม่เสียเวลามานั่งจับผิดใคร มิใช่หรือ ?
สอบถามกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพื่อนสมาชิกและพันธมิตรผู้ห่วงใย ว่าถ้าหมดทุนดำเนินการ กลุ่มเสขิยธรรม จะทำอย่างไรต่อ เพราะอ่านบทบรรณาธิการจดหมายข่าว เสขิยธรรม ฉบับที่ ๕๗ แล้วรู้สึกไม่สบายใจ ในที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานกลุ่มฯ ครั้งที่ผ่านมา คณะกรรมการส่วนใหญ่ก็ตอบตรงกัน ว่า.. การที่แหล่งทุนบางแหล่งยุติการสนับสนุน มิใช่จะทำให้ทุกอย่างยุติลง ด้วยเหตุว่าปัจจุบัน กลุ่มเสขิยธรรม เป็นของสมาชิก หากเพื่อนสมาชิกยังให้การสนับสนุน องค์กรพันธมิตร และเพื่อนพ้องหลาย ๆ ฝ่ายยังเคียงข้าง นั่นหมายความว่า เรา จะยังยืนหยัดอยู่ได้ ก็ด้วยกำลังกาย กำลังใจ และพลังแห่งความสามัคคี
นอกจากคำถาม ความช่วยเหลือและกำลังใจในการร่วมสนับสนุนก็หลั่งไหลเข้ามามิได้ขาด มีทั้งท่านที่ร่วมบริจาคเข้า กองทุนเสขิยธรรม ช่วยหาสมาชิกกลุ่มฯ สมาชิกจดหมายข่าวฯ และเสนอตัวเข้ามาเป็นอาสาสมัครโดยมิปรารถนาค่าตอบแทน ทั้งที่ต้องการช่วยงานกลุ่มเสขิยธรรม และจดหมายข่าว เสขิยธรรม นี่คือน้ำใจของมิตรในยามยากโดยแท้...
เข้าเรื่องกิจกรรมในรอบไตรมาส เสียที
เมื่อ วันที่ ๒๓ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๖ ที่ผ่านมา คณะกรรมการดำเนินงาน และคณะกรรมการบริหาร คณะอนุกรรมการ กองทุนเสขิยธรรม ได้ร่วมประชุมตามวาระปกติ ที่วิทยาลัยสงฆ์วัดสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมวางแนวทาง และกำหนดภารกิจของกลุ่ม ภายใต้สถานการณ์ที่ถูกระงับการสนับสนุนด้านทุน จากคณะกรรมการศาสนาเพื่อการพัฒนา (ศพพ.) ที่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสำนักงานกลางของ เสมสิกขาลัย ไปแล้ว ได้ข้อสรุปบางประการที่น่าสนใจ เช่น ต่อไปนี้ การจัดกิจกรรมการเสวนา สัมมนา อภิปราย ของ กลุ่มเสขิยธรรม จะถือเป็น หลักสูตร ของ เสขิยธรรมวิทยาลัย นั่นหมายความว่า หากใครเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวครบ ๖ ครั้งต่อปี และร่วมกิจกรรมต่อเนื่องครบตามหลักสูตร ย่อมมีสิทธิ์ได้รับวุฒิบัตรจากกลุ่มเสขิยธรรม ที่สำคัญก็คือ งานนี้ฟรี เว้นแต่คนมีมากยินดีจะเจือจานแก่ผู้มีน้อยกว่า ตามกำลังและศรัทธา
นอกจากนั้น การทำ สารคดีเสขิยบุคคล ซึ่งก็คือ พระ แม่ชี ที่น่าสนใจและถือเป็นแบบอย่าง ที่ค้างเติ่งมาตั้งแต่เก็บข้อมูลพระครูสุภาจารวัฒน์เสร็จเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากตั้งงบประมาณไว้ต่ำ ผู้รับงานไม่สามารถทำต่อไปได้นั้น ต่อไปนี้ คณะกรรมการดำเนินงานจะรับมาดำเนินการกันเอง ส่วนหนึ่งก็เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน เอามาเป็นค่าเดินทาง และอุปกรณ์ ส่วนค่าแรงสรุปกันในที่ประชุมว่าไม่ต้องจ่าย ให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่อีกส่วนหนึ่งของกรรมการฯ ที่มีฉันทะจะฝึกทำสารคดี ก็ต้องรอดูกันต่อไป ว่าจะไหวหรือไม่
หลังจากประชุมในส่วนงานของ กลุ่มเสขิยธรรม เสร็จคณะกรรมการดำเนินงาน และผู้ประสานงานกลุ่มเสขิยธรรม ตลอดจนอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยงาน ก็ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับคณาจารย์ส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาจุฬาลงกรณ์วิทยาเขตเชียงใหม่ วัดสวนดอก และดร. ประมวล เพ็งจันทร์ กับ อ.ชัชวาล ปุญปัน จากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน และพระสมคิด จารณธมฺโม จากวัดโป่งคำ อ.สันติสุข จ.น่าน เกี่ยวกับสถานการณ์คณะสงฆ์ และการศึกษาทางเลือกของพระสงฆ์ มีมุมมองและข้อสรุปที่น่าสนใจหลายประการ ซึ่งอาจมีการนำเสนอทางเวบไซต์ https://skyd.org ในโอกาสต่อไป
งานประชุมคณะกรรมการดำเนินงานคราวนี้ ได้รับความสะดวกทุกประการ ทั้งเรื่องคำแนะนำ ความรู้ ที่พัก และภัตตาหาร ด้วยความอนุเคราะห์จากพระมหาบุญช่วย สิรินฺธโร ก็ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ไว้ด้วยในโอกาสนี้
หลังจากนั้น เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๖ พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ กับพระมหาประญัติ อภินิกฺขมโน ในฐานะตัวแทนกลุ่มเสขิยธรรมก็ได้เดินทางไปร่วมงานภาวนาเพื่อสันติภาพ อันเป็นกิจกรรมระหว่างศาสนา จัดโดย คณะกรรมการไทยรณรงค์เพื่อยุติกับระเบิด เนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิด ครั้งที่ ๕ ในวันที่ ๑๕ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๖ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ ในส่วนของการภาวนาระหว่างศาสนาฯ นี้ จัดขึ้นที่ บ้านเซเวียร์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ
คืนวันเดียวกัน คณะทำงานสารคดี เสขิยบุคคล ก็ออกเดินทางไปเก็บข้อมูลและสัมภาษณ์ พระสมคิด จารณธมฺโม ที่วัดโป่งคำ อ.สันติสุข จ.น่าน ซึ่งเป็น เสขิยบุคคล ท่านแรกที่ทาง กลุ่มเสขิยธรรม จะดำเนินการรวบรวมข้อมูล ทั้งประวัติชีวิต ความเป็นมา และการทำงานต่าง ๆ นำเสนอเพื่อนสมาชิกฯ และบุคคลทั่วไป ได้รับทราบและเรียนรู้จากท่านกันต่อไป
จากนั้น ในวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๔๖ พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ กับพระมหาประญัติ อภินิกฺขมโน ก็ได้ไปร่วมกิจกรรมกับคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ และองค์กรอื่น ๆ ซึ่งได้ร่วมกันจัดกิจกรรม ร่วมสร้างสันติภาพบนแผ่นดิน ณ ห้องประชุมปิยะการุณย์ ชั้น ๓ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ซึ่งมีการจุดเทียนสันติภาพ และนำภาวนาโดยผู้นำศาสนา พุทธ คริสต์ อิสลาม และมีการอภิปรายในหัวข้อ ศาสนามีบทบาทอย่างไรในการส่งเสริมสันติภาพ อีกด้วย โดยมีพระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ อ.นิติ ฮาซัน และ อ.วไลพร ณ ป้อมเพชร เป็นผู้ร่วมอภิปราย ดำเนินรายการโดยบาทหลวงวิชัย โภคทวี
และบ่ายวันเดียวกัน ที่ห้องราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์ กลุ่มเสขิยธรรม โดยพระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ ได้เข้าร่วมแถลงข่าวเปิดตัว เครือข่ายหนังสือทางเลือก : เพื่อสาระของชีวิตและสังคม ซึ่งกลุ่มเสขิยธรรมเป็นสมาชิกและมีส่วนร่วมในการก่อตั้ง ในงานดังกล่าวนี้ มี ศ.น.พ.ประเวศ วะสี ปาฐกถานำ ในหัวข้อ ความคิดนอกกระแส : ทางเลือกของสังคมไทย และมีการเสวนาโต๊ะกลมต่อ ในหัวข้อเดียวกัน โดยมี พระกิตติศักด์ กิตฺติโสภโณ น.พ. วิชัย โชควิวัฒน น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ คุณสุชาติ สวัสดิ์ศรี คุณรสนา โตสิตระกูล น.พ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ เป็นผู้ร่วมเสวนา และดำเนินรายการโดย คุณพิภพ ธงไชย
สำหรับระยะสุดท้าย ในไตรมาส กรกฎาคม กันยายน ก็คือ งานมหกรรมหนังสือและสื่อการศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ ๘ และงานมหกรรมหนังสือ ๓๐ ปี ๑๔ ตุลา งานแรกจัดที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานหลังจัดขึ้นที่สนามหลวง ฝั่งธรรมศาสตร์ ซึ่ง กลุ่มเสขิยธรรม ตัดสินใจเปิดบู้ธจำหน่ายหนังสือและแนะนำผลงานของกลุ่มฯ เป็นครั้งแรก โดยคาดหวังว่า จะเป็นโอกาสในการเผยแพร่ผลงานและกิจกรรมต่าง ๆ ของเพื่อนสมาชิกฯ ออกสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง ยิ่งขึ้นกว่าการจัดกิจกรรมที่ผ่านมา
นอกจากนั้น กลุ่มเสขิยธรรม ยังได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการจัดงานรำลึก ๓๐ ปี ๑๔ ตุลา ให้เป็นคณะสงฆ์ผู้ประกอบพิธีกรรม เพื่อความเข้าใจในเนื้อหาสาระ และมีรูปแบบสอดคล้องกับกิจกรรมอื่น ๆ ในงานดังกล่าวที่จะจัดขึ้น ณ อนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลา สี่แยกคอกวัว กรุงเทพฯ
นี่คือกิจกรรมโดยย่อ ที่ กลุ่มเสขิยธรรม ยังยืนหยัด จะนำเสนอการประยุกต์ใช้ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม เท่าที่เราจะมีกำลัง และความสามารถ ภายใต้การสนับสนุนของเพื่อนสมาชิก และพันธมิตรทั้งปวง