เสขิยธรรม -
จดหมายข่าวเสขิยธรรม
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม ฉบับที่ ๕๘

ประยุกต์ธรรม

สมพร พึ่งอุดม (ครูส้ม)
ภาพประกอบโดย
จัน - เจ้า - ค่ะ <*

ผ่อนพักตระหนักรู้
ฉบับ ...ครูสัม...

...วางอย่างว่าง

 


เดินทางยาวนาน บนถนนชีวิต
บัดนี้ ได้เวลาผ่อนพักตระหนักรู้
ทอดกายนอนแนบปฐพี
มอบความไว้วางใจแด่แผ่นดิน
หายใจเข้า…ไว้วางใจ
หายใจออก…ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมด ผ่อนคลาย
หายใจเข้า…ไว้วางใจ
หายใจออก…ทิ้งความวิตกกังวลทั้งหมด
ผ่อนคลาย…


ปัจจุบันขณะคือมหัศจรรย์แห่งชีวิต
หลับตาลงเบา ๆ
รับรู้ทุกการเคลื่อนของลมหายใจ
หายใจเข้า…อิ่มเอิบ
หายใจออก…สันติ

 


ลมหายใจของโลก คือลมหายใจเดียวกับเรา
หายใจเข้า…ลึก
หายใจออก…ยาว
หายใจเข้า…เป็นลมหายใจเดียวกับต้นหญ้าและกอบัว
หายใจออก…เป็นลมหายใจเดียวกับ ก้อนหิน ดินทราย และสายน้ำ

 


นิมิตราวกำลังอยู่นั่งริมลำธารสายน้อย
พิจารณาความงามในระลอกคลื่น
สงบเย็นและไม่ขาดสาย
หายใจเข้า…ชื่นชมความงามสงบ
หายใจออก…รับรู้ความงามอย่างปล่อยวาง
ชื่นชม รับรู้ วางเฉย ปล่อยให้ไหลผ่านไป


สายน้ำมิอาจแยกจากโลก
ลมหายใจมิอาจพรากจากร่างกายเรา
หายใจเข้า…ดำรงอยู่กับร่างกายด้วยอาทร
หายใจออก…มอบกายนี้แด่รักแท้แห่งแม่ธรณี

 


รักแท้นั้นศักดิ์สิทธิ์
ร่างกายนั้นศักดิ์สิทธิ์
บัดนี้ ได้เวลาผ่อนพักตระหนักรู้
นำความรับรู้ทั้งหมดไปจับที่เท้าทั้งสองข้าง
ก้าวแรก ก้าวล้ม และก้าวลุก ก็สองเท้านี้
ถนอมเท้าด้วยลมหายใจอ่อนโยน
หายใจเข้า…เท้าผ่อนคลาย
หายใจออก…ผ่อนคลายเท้า


ประคองการรับรู้ค่อย ๆ เคลื่อนขึ้นอย่างช้า ๆ
จากเท้า สู่น่อง หัวเข่า และต้นขา
หายใจเข้า…ผ่อนคลายตลอดช่วงขาทั้งสองข้าง
หายใจออก…แผ่รักและรอยยิ้มจากต้นขาถึงปลายเท้า

 


หายใจเข้า…ลึก
หายใจออก…ยาว
รับรู้การดำรงอยู่ของตะโพก เชิงกราน และก้นกบ
ผ่อนคลายอวัยวะภายนอกและภายในช่องเชิงกราน

ณ จุดนี้คือรากฐานของสายธารชีวิต
“ดิน” คือธาตุกำเนิดของศูนย์พลังราก
ธาตุแข็งก่อความมั่นคงไม่คลอน
ผ่อนคลาย…และ…ตระหนักรู้
ยิ้มและน้อมรับความมั่นคงของฐานชีวิต
ยิ้มและน้อมรับความไม่เที่ยงแห่งปฐวีธาตุ
ผ่อนพัก…ยิ้ม…ปล่อยวาง
เพราะวาง…จึงไม่กลัว
ตระหนักรู้…ยิ้ม…อภัย
เพราะไม่กลัว…จึงอภัย

 


ค่อย ๆ เลื่อนการรับรู้ขึ้นมาบริเวณท้องน้อยอย่างช้า ๆ
หายใจเข้า…เบา
หายใจออก…สบาย
ผ่อนคลายอวัยวะภายนอกและภายในบริเวณหัวเหน่า
“น้ำ” คือธาตุที่ไหลเลื่อนเคลื่อนความปรารถนาและอารมณ์
หายใจเข้า…ยิ้ม…น้อมรับทุกปรารถนา
หายใจออก…ยิ้ม…น้อมรู้ทุกอารมณ์
ยิ้มและวางใจ
อาโปธาตุเคลื่อนดุลยภาพหยินและหยาง
พอใจ…เมื่อหยินปรากฏ
ตระหนักรู้…เมื่อหยางแสดง
เพราะพอใจ…จึงสมดุล
เพราะสมดุล…จึงพบสุข

 

๑๐
หายใจเข้า…กระบังลมพองขึ้น
หายใจออก…หน้าท้องยุบลง
ค่อย ๆ เคลื่อนความรู้สึกขึ้นมาที่หน้าท้องอย่างช้า ๆ
ผ่อนคลายอวัยวะภายนอกและภายในบริเวณลำตัวส่วนกลาง
“ธาตุไฟ” คือแก่นก่อกัมมันตะ
อัคนีโหมเปลวอัตตา ตัวตน มีฉันและมีเธอ
ร้อนเกินไปจึงเผาไหม้และรุกราน
อบอุ่นพอประมาณ จึงปลอดภัยและเชื่อมั่น
หายใจเข้า…อบอุ่นและปลอดภัย
หายใจออก…เชื่อมั่นและสง่างาม
ยิ้มและน้อมรับ…ความเป็นฉัน
ยิ้มและน้อมรับ…ความเป็นเธอ
ผ่อนพัก…ลดตัวตน
ตระหนักรู้…ทรงพลัง

๑๑
อย่างช้า ๆ และอ่อนโยน
เลื่อนความรู้สึกขึ้นมา ณ กลางหว่างอก
รับรู้การดำรงอยู่ของอวัยวะภายนอก และภายในบริเวณหน้าอก
ผ่อนคลายและยิ้มให้กับอวัยวะเหล่านั้น อย่างอ่อนโยนรู้คุณ
ธาตุลม คือแก่นกำเนิดรัก ณ ฐานหัวใจ
ผ่อนคลาย…ธาตุลมเคลื่อนทั่วห้องหัวใจ
เบาสบาย…หัวใจอิ่มเอมไม่ติดขัด
เพราะอิ่มเอมจึงไม่เรียกร้องรักจากคนอื่น
เพราะไม่ติดขัดจึงแผ่รักได้ไพศาล
เพราะรักจึงเมตตา
เพราะเมตตาจึงกรุณา
หายใจเข้า…เมตตา
หายใจออก…กรุณา
ผ่อนพัก…ยิ้มและโอบกอดสรรพชีวิต
ตระหนักรู้…น้อมรับทุกอ้อมกอดด้วยอุเบกขา

 

๑๒
หายใจเข้า…เบาสบาย
หายใจออก…นิ่งสงบ
ค่อย ๆ เคลื่อนความรู้สึกจากฐานหัวใจขึ้นมาบริเวณหัวไหล่ ซ้าย และ ขวา
รับรู้การดำรงและความต่อเนื่องของกระดูกทุกชิ้น
จากหัวไหล่ แขน ศอก ข้อมือ จรดปลายเล็บ
ผ่อนคลายและขอบคุณกระดูกทุกชิ้น
ผ่อนคลายและขอบคุณข้อต่อทุกข้อ
ยิ้มอ่อนโยนให้กับสองไหล่ สองแขน สองมือ และสิบนิ้ว
ยิ้ม และขอบคุณ

๑๓
นำความรักเลื่อนขึ้นอย่างช้า ๆ มาที่ลำคอ
รับรู้การดำรงอยู่ของอวัยวะบริเวณนี้
ผ่อนคลายอวัยวะภายนอกและภายในบริเวณลำคอ
หายใจเข้า…น้อมฟังสรรพสำเนียงจากภายนอก
หายใจออก…ได้ยินสรรพสำเนียงจากภายใน
ฐานนี้มีธาตุเสียงเป็นสื่อเชื่อมจักรวาลภายนอกกับจักรวาลใจ
ผ่อนพัก…ฉันฟังโลก
ตระหนักรู้…โลกฟังฉัน
ยิ้ม…เพราะฟังจึงเข้าใจ
ยิ้ม…เพราะเข้าใจจึงอภัย
ยิ้ม…เพราะพูดจึงปลดปล่อย
ยิ้ม…เพราะปล่อยจึงคลี่คลาย

 

๑๔
หายใจเข้า…ลึก
หายใจออก…ยาว
ค่อย ๆ เคลื่อนการรับรู้มาที่ใบหน้า
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อสองข้างแก้ม
ริมฝีปากบนล่างผ่อนคลาย
ยิ้มอ่อนโยนให้กับจมูก ดวงตา สองคิ้ว และสองหู
คลายคิ้วทั้งสอง ปล่อยหน้าผากให้เบาไร้น้ำหนัก
ณ จุดกลางหว่างคิ้ว คือฐานแห่งญาณหยั่งรู้
ธาตุแสง คือรัศมีเรืองรองส่องพลัง
หายใจเข้า…เรืองรอง
หายใจออก…ส่องสว่าง
ผ่อนพัก…ยิ้มให้กับดวงตาที่สาม
ตระหนักรู้…ยิ้มให้กับมายาการทั้งปวง
หายใจเข้า…สว่าง
หายใจออก…สงบ

 

๑๕
ผ่อนคลายหว่างคิ้วและหน้าผาก
เคลื่อนการรับรู้อย่างช้า ๆ มาที่ศรีษะ
หายใจเข้า…ผ่อนคลาย
หายใจออก…สมองเบาสบาย
จุดกลางกระหม่อมคือฐานแห่งปัญญาญาณ
ณ ที่ซึ่งดอกบัวแย้มบานไม่รู้จบ
ณ ที่ซึ่งจักรวาลทั้งหมดมาบรรจบพบ
หายใจเข้า…ดอกบัวบาน
หายใจออก…จักรวาลขยาย
ยิ้ม…ดอกบัวและจักรวาลรวมกันเป็นหนึ่ง
หายใจเข้า…ไม่มีดอกบัว
หายใจออก…ไม่มีจักวาล
ยิ้ม…มีเพียงความว่าง
ผ่อนคลาย…ว่าง
ตระหนักรู้…วาง
หายใจเข้า…ว่าง
หายใจออก…วาง .. .

หน้าแรก | กลุ่มเสขิยธรรม | ความเคลื่อนไหว | ประเด็นร้อน | ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
นักบวชกับสังคมร่วมสมัย |> จดหมายข่าวเสขิยธรรม | รวมเว็บน่าสนใจ | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม skyd.org
สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน

กลุ่มเสขิยธรรม ภายใต้มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ๑๔/๖๓ หมู่บ้านสวยริมธาร ๒ ซอย ๕
ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวง/เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐
โทร. ๐๒-๘๐๐-๖๕๒๖ ถึง ๘, ๐๖-๗๕๗-๕๑๕๖ โทรสาร ๐๒-๘๐๐-๖๕๔๙
... e-mail :