จดหมายข่าว เสขิยธรรม ฉบับนี้กล่าวได้ว่า ยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เช่นเดียวกับสถานะของ กลุ่มเสขิยธรรม ซึ่งอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน คือ การที่จะ อยู่ หรือ ไป ล้วนแล้วแต่ มิสามารถ กำหนดตัดสินได้โดย คณะทำงาน เพียงฝ่ายเดียว
หากขึ้นอยู่กับผู้อ่านและผู้สนับสนุนทุกฝ่ายเป็นด้านหลัก
กล่าวได้ว่า นี่คือ บทเรียน แห่ง อิทัปปัจจยตา อันว่าด้วยความเกี่ยวข้อง และโยงใยสัมพันธ์ ซึ่งชัดเจนและแจ่มแจ้งยิ่ง
ขอเพียงมี สติ ปัญญา สัมปชัญญะ และสมาธิ ให้พร้อมเพรียงและทันท่วงทีเท่านั้น
หาไม่แล้ว ก็จะตกอยู่ในกองทุกข์ และความวิตกกังวลไม่สิ้นสุด ว่า ตน ได้กระทำหน้าที่ ของตน สมบูรณ์ตามที่ได้รับมอบหมายแล้วหรือไม่ อันกล่าวได้ว่า เป็น กับดัก ของการทำงานโดยแท้
และกล่าวอย่างถึงที่สุด ก็ล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับเรื่อง ตัวกู ของกู และ ความยึดมั่น การปล่อยวาง อยู่นั่นเอง
ต่างกันก็ตรงที่ เหลี่ยม มุม ระหว่าง ยึดมั่นกับรับผิดชอบ และ ปล่อยวางกับทอดธุระ ที่มักทับซ้อนกันอยู่เสมอ ด้วยความเป็นบุถุชน ซึ่งจะมากจะน้อย ฉันทะ และ ความปรารถนาในผลสำเร็จ ก็เป็นเส้นสายวกวน จนตัดผ่านระหว่างกันและกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ที่ว่ามาทั้งหมดคงพอจะสรุปลงได้ว่า เราห่วงใย..แต่ไม่กังวล หวั่นใจ..แต่ไม่ถึงกับวิตกจริต กับทุกอย่างที่จะมาถึง หรือกำลังจะเกิดขึ้น ตราบเท่าได้ทำในสิ่งที่ตนรับผิดชอบแล้วอย่างเต็มกำลัง
จากรายละเอียดใน บรรณาธิการบันทึก ฉบับที่ผ่านมา พร้อมทั้งข้อมูลบางส่วนที่ได้ ทยอยจัดส่งให้แก่เพื่อนสมาชิก ตลอดจนผู้สนใจอื่น ๆ ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่ยังให้โอกาสในการฝากข่าวแก่ กลุ่มเสขิยธรรม และ จดหมายข่าวเสขิยธรรม เราก็ได้รับการตอบสนองจากหลายท่านด้วยไมตรีจิตและมิตรภาพ อันน่าประทับใจยิ่ง บางท่านได้ร่วมบริจาคสมทบใน กองทุนเสขิยธรรม ตลอดจนสมทบในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับพระภิกษุ สามเณร และแม่ชี หลายท่านได้ชี้แนะ และบอกเล่าถึงลู่ทางอันมีประโยชน์ ต่อการหาทุนผ่านองค์กร และการระดมทุนรายย่อยรูปแบบต่าง ๆ มีไม่น้อย ที่ช่วยระดมรับสมัครสมาชิก จดหมายข่าวเสขิยธรรม ครั้งละ ๑๐ ๒๐ ราย จากต่างจังหวัดอันห่างไกล
ปรากฏการณ์เหล่านี้บอกเล่าเรื่องราวซึ่งมากไปกว่า น้ำใจ และ การมีส่วนร่วม ที่เรามักใช้กันเป็นคำพูดติดปาก หากเป็นรูปธรรมของความเสียสละและความตั้งใจของคนเล็กคนน้อย จากจุดยืน แง่มุม และพละกำลังที่ตนมีในฐานะ คนทำงาน นี่นับเป็นของขวัญและกำลังใจโดยแท้ และกล่าวโดยถึงที่สุดแล้ว นี่เท่ากับตอกย้ำถึงพันธสัญญา ว่า..หากยังมีผู้สนับสนุนและเพื่อนร่วมงาน ผู้เกี่ยวข้องด้านต่าง ๆ ก็มีแต่จะต้องทุ่มเทให้กับสิ่งที่ตนรับผิดชอบให้มากยิ่งขึ้น เท่าที่จะมีกำลังและความสามารถ
นอกเหนือจากการส่งข่าวคราว และการติดต่อผ่าน จดหมายข่าวเสขิยธรรม ราย ๓ เดือน และ เว็บไซต์เสขิยธรรม https://skyd.org ตลอดจนกิจกรรมเสวนา อบรม อภิปราย และกิจกรรมเคลื่อนไหวทางสังคมต่าง ๆ แล้ว กลุ่มเสขิยธรรม ยังได้ระดมสรรพกำลัง (เท่าที่พอจะมีอยู่) ร่วมเปิดบูธนำเสนอข้อมูล และจำหน่ายหนังสือ ตลอดจนของที่ระลึก ให้แก่เพื่อนสมาชิก และผู้สนใจทั่วไป ทั้งในงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๘ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ ๒๖ กันยายน ถึงวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๔๖ และ วันที่ ๑๐ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ ในงาน มหกรรมหนังสือ ๑๔ ตุลา ณ ท้องสนามหลวง ฝั่งตรงกันข้ามกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อ่านรายละเอียดในเล่ม)
ทั้งสองงานนี้ กลุ่มเสขิยธรรม ได้รับความอนุเคราะห์หลาย ๆ ด้าน จากเพื่อนพ้องในสำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง จนทำให้เราสามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ อันเกิดจากการขาดประสบการณ์ในกิจกรรมประเภทนี้ไปได้ในระดับหนึ่ง
ก็ได้แต่หวังว่า เพื่อนสมาชิก และผู้สนใจ จะช่วยกันแวะเวียนมาทักทาย และให้การสนับสนุน เช่นเดียวกับกิจกรรมอื่น ๆ ที่ กลุ่มเสขิยธรรม เคยจัดมา
ในส่วนของคณะทำงาน พวกเราหวังกันไว้ว่า กิจกรรมทั้งสองนี้ น่าจะมีส่วนช่วยให้จำนวนสมาชิกของ จดหมายข่าวเสขิยธรรม เพิ่มขึ้นจนถึงจำนวน ๑,๕๐๐ ราย ซึ่งนั่นหมายความว่า เราจะสามารถตีพิมพ์เพื่อจัดส่งให้กับเพื่อนสมาชิกโดยตรง และจัดส่งให้กับวัด สำนักชี ห้องสมุด โรงเรียน ตลอดจนพระภิกษุ สามเณร และแม่ชี ที่ไม่สามารถหรือไม่สะดวกที่จะสมัครเป็นสมาชิกได้ โดยไม่คิดมูลค่า และไม่ต้องวางตลาดด้วยการจัดจำหน่ายผ่านระบบสายส่งอีกต่อไป
จดหมายข่าวเสขิยธรรม ฉบับนี้ นำเสนอประเด็น เหลียวมองพุทธศาสนา : อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งประกอบไปด้วยบทความหลัก บทความพิเศษ และคอลัมน์อันทรงคุณค่า ทั้งผลงานของนักเขียนประจำ และท่านผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ให้เกียรติแก่วารสารเล็ก ๆ อย่างเรานี่คือผลจากความร่วมมือ มิตรภาพ และกำลังใจที่ท่านทั้งหลายมีให้กับ คนทำงาน กลุ่มเล็ก ๆ อย่างเราโดยแท้..