บ้านเหนือ
วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๔๔
คุณวดีลดาเจ้า
ม้ว่าจะพบกันวันพรุ่งนี้ แต่ก็ยังอยากจะเขียนถึงคุณอยู่ดี การเขียนจดหมายถึงกัน ได้เห็นการเคลื่อนไหวของหัวใจในลายมือนั้น ยังเป็นของขวัญแก่กันและกันที่น่ารัก ขอบคุณเจ้าสำหรับงานเขียน ฉันชอบความรัก พร้อม จดหมายก้อม (จดหมายสั้น) ที่มีลายมืออ่านง่ายชัดเจนของคุณ เราควรจะสืบทอดประเพณีการเขียนจดหมายโดยใช้ลายมือต่อไปนะเจ้า ก็เหมือนอย่างที่คุณว่า จดหมายอีเลคโทรนิคนั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง สู้เขียนจดหมายหรือโปสการ์ดไม่ได้
เรื่องน่าแปลกสำหรับมนุษย์ก็มีอยู่ว่า เราอยู่ไกลหัวใจไปได้ไม่นานหรอก ต้องหวนกลับมาเสมอ เมื่อไม่นานมานี้มีเพื่อนรุ่นเยาว์ของข้าเจ้าคนหนึ่ง ส่งหนังสือสวยที่มีชื่อว่า Passionate Love Letters มาให้จากอเมริกา เป็นการรวบรวมเอาจดหมายรักของนักเขียน นักคิด กวีที่มีชีวิตสมัยใช้ปากกาคอแร้งจิ้มหมึก พร้อมมีสำเนาจดหมายที่เป็นลายมือจริง ๆ แทรกอยู่ในซองแนบตามหน้าหนังสือ เมื่อก่อนไม่เห็นมีใครคิดจะทำหนังสือแบบนี้ ก็มีมาในยุคอีเมล์นี่แหละ ที่เรายังปรารถนาและโหยหาร่องรอยแห่งอดีต
อ้อ
เกือบลืมไป หนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ฉบับภาษาอังกฤษที่ ตุ๊พี่ ท่านฝากมาให้สามีคุณอ่านยังอยู่ที่ข้าเจ้าเน้อเจ้า พรุ่งนี้จะนำติดตัวไปให้ ข้าเจ้ายังไม่ได้อ่านสักเล่มเลย และยังหาเวลาไปดูหนังไม่ได้
แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นอีกกรณีหนึ่งซึ่งอดีตในยุคกลาง ถูกนำมาสู่ความทรงจำเราอีกครั้งหนึ่ง ก็อย่างที่คุณว่าแหละเจ้า ที่หนังสือเล่มนี้ดังขึ้นมาได้ ก็เพราะคนเราต้องการอำนาจเหมือนอย่างที่พ่อมด แม่มดมี มีนักประวัติศาสตร์คนหนึ่งชื่อ David Lowenthal เขียนหนังสือมาเล่มหนึ่งชื่อ อดีตคือต่างประเทศ (The Past is a Foreign Country) บอกว่าการหวนคืนอดีต หรือ ความรู้สึกถวิลหา (nostalgia) นั้นมีมาในประวัติศาสตร์มนุษยชาติหลายยุคมาแล้ว นักเขียนนิยายหลายคนก็เอาเรื่องอดีตมาเขียน นักเขียนบางคนมีความรู้เรื่องเทคโนโลยี่ก็จะเป็นอำนาจอย่างหนึ่ง ซึ่งดึงดูดความสนใจคนและจะร่ำรวยมหาศาล อันนี้เห็นท่าจะจริงในกรณีของ เจ. เค. โรลิ่ง ผู้เขียน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กระมังและเทคโนโลยีของโรลี่ คือ วิชาเล่นแร่แปรธาตุ หรือ Alchemy ของพ่อมด แม่มดทั้งหลายในยุคกลาง
พอได้ยินข่าวว่าโรงเรียนในอังกฤษ ออสเตรเลีย และอเมริกาออกกฎห้ามเด็กอ่าน แฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือนำของเล่นที่เกี่ยวเนื่องไปโรงเรียนเพราะกลัวว่าเด็ก ๆ จะมัวเมากับเรื่องเวทมนต์คาถา จนไม่ใช้ความสามารถของตนเอง ข้าเจ้าก็นึกถึงตอนปลายยุคกลาง ที่มีการกวาดล้างพ่อมด แม่มด ขึ้นมาได้แล้วเลยนึกสนุกอยากจะเขียนเรื่องนี้ จึงมุ่งหน้าไปหน้าวัดอุโมงค์ แถวนั้นนอกจากจะมีศิลปินใจกว้างผู้มีชีวิตโสดที่น่านิยมแล้ว ยังมีแม่มดใจดีที่มีชีวิตคู่ที่น่าอิจฉาด้วย บนชั้นหนังสืออันมากมายในบ้านแม่มด มีหนังสือเกี่ยวกับแม่มด และความลี้ลับน่าพิศวงอยู่หลายเล่ม แล้วขอยืมเอามาดูอย่างเพลิดเพลิน เพราะเป็นหนังสือสวยด้วยภาพและการจัดทำรูปเล่ม
มีคนบอกว่าหนังสืออย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือ Lord of the Rings คนอเมริกันเขียนไม่ได้หรอกเพราะเป็นดินแดนใหม่ ตอนอพยพกันไปก็ไม่ได้หอบเอาวิญญาณเก่าแก่ไปด้วย คงมีแต่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในยุโรป เช่น อังกฤษเท่านั้นที่จะเขียนหนังสือที่มีรากอดีตอันยาวไกลได้ คนอังกฤษชอบเล่าเรื่องผีที่สิงอยู่ตามตึกรามบ้านช่องอันเก่าแก่ แต่คนอเมริกันจะแห้งแล้งเรื่องราวอันชวนพิศวง และไม่ค่อยเข้าใจนัก
ว่ากันว่าบรรยากาศของยุคกลางตอนต้นคือ ก่อนศตวรรษที่ ๑๔ นั้น อบอวลด้วยนางฟ้า เทพยดา และพ่อมด แม่มด ผู้ฝึกฝนวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ จัดว่าเป็นนักแปรธาตุด้วย นางฟ้ากับแม่มดนั้นเหมือนกันหลายอย่างทีเดียว หายตัวก็ได้ แปลงร่างก็ได้ มีเวทมนต์คาถา มักเริงร่าเต้นรำกันเป็นวงกลม กลางคืนก็จะจัดปาร์ตี้กันสนุกสุดเหวี่ยง แต่นางฟ้าจะเป็นตัวแทนของความดีงาม จึงไม่มีใครไปแตะต้อง ปล่อยให้ล่องล่อยได้อย่างอิสระ ในขณะที่แม่มดถูกใช้ให้เป็นแพะรับบาป
หนังสือของแม่มดวัดอุโมงค์บอกว่า พอถึงปลายยุคกลางคริสตจักรเริ่มสั่นคลอนมากขึ้น ด้วยมีนิกายต่าง ๆ แตกสาขาไปมาก มิหนำซ้ำชาวนาก็ก่อจลาจล คริสตจักรไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้ประชาชนอยู่ใต้อาณัติจึงเฉไฉไปโทษ พ่อมด แม่มดว่าเป็นสาเหตุของสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ย่ำแย่ แล้วจึงทำลายล้างแต่บัดนั้น จับแขวนคอและเผาให้สิ้นซาก เล่ากันว่าช่วงระหว่างศตวรรษที่ ๑๔๑๗ นั้น มีพ่อมด แม่มดถูกฆ่าตายประมาณครึ่งล้านคน และ ๘๐% จำนวนนี้เป็นแม่มดคือเป็นผู้หญิง พอถึงศตวรรษที่ ๑๘๑๙ แม่มดก็ไม่ได้เป็นแพะรับบาปอีกต่อไป แต่เข้าไปอยู่ในตำนานเล่าขาน นิทาน นิยาย และเทพปกรณัม แล้วมาถูกฟื้นฟูในฐานะเทพยดาอันเก่าแก่เมื่อต้นศตวรรษที่ ๒๐ นี้เองและต่อมากลุ่มสตรีนิยมก็รื้อฟื้นเรื่องแม่มดขึ้นมาอีก แต่เน้นเรื่องทางสังคมที่ผู้หญิงถูกกดขี่ และแล้วเรื่องของแม่มดก็ถูกผลักให้ไปอยู่ชายขอบ ไม่ได้อยู่ร่วมกับประวัติศาสตร์กระแสหลักของมนุษชาติ แต่ไปอยู่ในนิทาน นิยาย กลายเป็นตัวแทนของชั่วร้าย และในทุก ๆ ที่ก็ยังมีแม่มดอยู่เหมือนดังภาพฝันอันร่วมกันสร้าง ซึ่งลึก ๆ แล้วพอจะบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวเรา และสังคมของเราด้วย
อันว่าวิชาเล่นแร่แปรธาตุของพ่อมด แม่มดยังคงเป็นเรื่องลี้ลับชวนให้ติดตาม นักวิทยาศาสตร์นักคิดชื่อดังของโลกเช่น เซอร์ไอแซค นิวตัน ผู้ค้นพบกฎแห่งแรงโน้มถ่วงของโลก ใฝ่ใจในความลี้ลับของธรรมชาติ และทุ่มเวลาให้กับการทดลองเล่นแร่แปรธาตุ เช่นเมื่อเห็นอยู่ชัดว่ามีสีใน Spectrum เพียง ๖ สีเท่านั้น แต่เขาก็ระบุว่ามี ๗ สีเพราะเลข ๗ เป็นเลขที่มีความลี้ลับมหัศจรรย์อันสำคัญยิ่ง พอไอแซค นิวตันคิดคำนวณเกี่ยวกับตัวเลขมาก ๆ เข้าก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่า สากลจักรวาลนั้นมีการบรรสานกันอย่างเป็นระเบียบและแม่นยำชวนให้พิศวง หนังสือวิทยาศาสตร์แบบจารีตทั้งหลายไม่ได้บอกเราหรอกว่า ตอนนั้นสมาคมวิทยาศาสตร์โดยการอุปถัมภ์ของพระราชาตั้งท่าสงสัยไม่ค่อยไว้วางใจ เซอร์ไอแซค นิวตันเท่าไรนัก การคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่แม่นยำของเขาต่างหาก ที่ทำให้เขาเอาตัวรอดพ้นจนมีชื่อเสียง ข้างฝ่ายเดการ์ต เจ้าของประโยค ลือเลื่อง I think therefore I am ก็เป็นนักปราชญ์คนหนึ่งที่ซึ่งสนใจเรื่องเล่นแร่แปรธาตุ แม้จะยึดเอาตรรกวิทยาเป็นหลัก เรื่องอะไรแบบนี้พ่อมด แม่มดทั้งหลายชอบนักแล
เจ.เค. โรลลิ่ง นำขบวนพ่อมด แม่มดมาครองใจคนทั้งโลกอีกครั้งใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ ในศตวรรษนี้ที่เป็นยุคแห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ป่วยการใช้การวิเคราะห์ทางจิตวิทยาให้ยุ่งยาก เมื่อยสมองเปล่า ๆ มาดูล้านนาบ้านเฮาดีกว่า คนเมืองเราจะไม่ตื่นเต้นกับพ่อมดแม่มดฝรั่งหรอก เพราะแถวนี้มีผีคับคั่ง ข้าเจ้านับในสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ แล้วมีผีอยู่ ๗๐ เกือบ ๘๐ ประเภท ผีกะ ผีกะโหล้ง (กะลา) ผีขุนน้ำ ผีเจ้านาย ผีโพรง ผีขี้หมา ผีขุนน้ำ ฯลฯ เอาเป็นว่ามีผีอยู่ในสรรพสิ่ง
ข้าเจ้าจำได้ว่าตอนเป็นเด็ก ตามแม่อุ้ย (ยาย) ไปหาผีเจ้านายเสมอ เป็นผีที่ปกป้องรักษาเมืองเชียงใหม่มาแต่ก่อนโน้น เจ้าทิพวรรณ เจ้าน้อย เจ้าพ่อข้อมือเหล็กฯลฯ ในห้องอุ๊ยตอนนี้ก็จะยังมีหิ้งพระเจ้า (พระพุทธเจ้า) มุมหนึ่ง และอีกมุมหนึ่งเป็นหิ้งผีปู่ย่า ซึ่งคุ้มครองผู้หญิงเป็นพิเศษ
งานวิจัยของอาจารย์ฉลาดชาย รมิตานนท์ เรื่องผีเจ้านายได้รับเลือกให้เป็นงานวิจัยดีเด่นหลายปีมาแล้ว และคุณมาลา คำจันทร์ นำมาเขียนใน เล่าเรื่องผีล้านนา แต่ที่น่าสนใจก็คือ งานศึกษาของอาจารย์อานันท์ กาญจนพันธุ์ ที่พบว่าจำนวนผีเจ้าในล้านนานั้นงอกเงยขึ้นจากเดิมอีกหลายสิบเปอร์เซนต์ ถ้าใครไปดูฟ้อนผีแถวแจ่งศรีภูมิตอนทำบุญเมือง เดี๋ยวนี้ จะเห็นว่าไม่ใช่มากด้วยปริมาณเพียงอย่างเดียว หากมีความเป็นนานาชาติ สมกับอยู่ในยุคโลกาภิวัตน์อย่างแท้จริง ข้าเจ้าเคยเห็นมีแต่งชุดตะวันออกกลางฟ้อนปะปนอยู่กับชุดผีแบบดั้งเดิมด้วย
จึงไม่น่าแปลกใจที่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้รับการขานรับอย่างล้นหลาม ด้วยการดึงเอาอดีตที่มีความเชื่อ ต่อนางฟ้า เทพยดา พ่อมด แม่มดที่ปกป้องคุ้มครอง คนที่มีใจดีงามกลับมาคืนใจคนอีกครั้ง ความเชื่อในเรื่องนี้ในอดีตนั้น เป็นที่มาของความเคารพ นอบนบต่อความลี้ลับของธรรมชาติ ก่อนที่จะถูกบดบังด้วยการปิดฉลากว่าเป็น ยุคมืด และสถาปนายุคของอริยบุคคลว่าเป็นยุคแห่งแสงสว่างหรือเรอเนสซองส์ นิทานเช่น Snow White จึงกลายเป็นเพียงเทพนิยายทางจริยธรรมเล่าให้เด็กฟังสนุก ๆ เท่านั้น
อาจารย์ที่ทั้งคุณวดีลดาและข้าเจ้าเคารพ เดินทางไปอเมริกาและมีฝรั่งบอกท่านว่าเขาสนใจเรื่องพุทธศาสนา และถามว่าควรจะอ่านหนังสืออะไรดี อาจารย์เราตอบว่าอ่านเรื่อง Show White ก็แล้วกัน เพราะเป็นเรื่องของการตื่นรู้ภายใน (Spiritual Awakening) พูดอย่างนี้ชาวพุทธใหม่ผู้พยายามทำให้พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์ให้ได้ คงจะเข้าใจได้ลำบาก แต่มิติพิศวงต่อความลี้ลับแห่งธรรมชาตินี่เอง ที่โน้มนำจิตใจให้อ่อนโยนเข้าหาการตื่นรู้แห่งชีวิตมากกว่าเหตุผลอันแข็งกร้าว ดูอย่างหลวงพ่อเทียน หรือหลวงพ่อคำเขียนนั่นปะไร ท่านเคยเป็นหมอพื้นบ้านที่ใช้เวทมนต์คาถามาก่อน มีคำอธิบายว่า การบรรลุภูมิธรรมเป็นการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานของขบวนการเคมีชีวภาพ หาใช่การใช้ความคิดเป็นเหตุเป็นผลทางจริยธรรมไม่ สรุปแล้วจิตใจที่โน้มเข้าหาความลี้ลับของธรรมชาติ จะอ่อนโยนลงและง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงขั้นมูลฐานของชีวิต เป็นกระบวนการทางธรรมชาติ เป็นการบรรสานของสากลจักรวาลที่เป็นระเบียบและแม่นยำ เหมือนดังที่เซอร์ ไอแซค นิวตันเคยประพิมพ์ประพาย
ใครว่าพลังธรรมชาติที่โอบอุ้มเราอยู่ทุกวันนี้เป็นพลังเร้นลับทางไสยศาสตร์นะ ที่โลกหมุนตลอดเวลาและเรายังยืนอยู่ได้จะอธิบายว่าเป็นเพราะแรงโน้มถ่วงของโลก หรือบอกว่าเป็นความเมตตาของพระธรรมชาติเจ้า แล้วระหว่างคำอธิบายสองอย่างนี้อย่างไหนจะไม่ทำลายมิติพิศวงของมนุษย์ พระแม่ธรณีคือตัวแทนของพลังลี้ลับของธรรมชาติ ดังที่มาช่วยปราบมารในคืนวันที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพราะฉะนั้นการตรัสรู้ของพระองค์ คงไม่ใช่เพราะอัจฉริยภาพหากแต่มีพลังธรรมชาติคอยช่วยอยู่ ซึ่งชาวพุทธบ้านเราเข้าใจด้วยการสั่งสมบารมี
ข้าเจ้าเบื่อโลกของคนเก่ง และอัจฉริยนิยมแต้ ๆ เจ้า เดี๋ยวนี้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบอะตอมใหม่สักตัวก็จดลิขสิทธิ์ ที่ที่ข้าเจ้าทำงานอยู่ก็มีบรรยากาศเช่นนี้ ถ้าหากว่าพระพุทธเจ้าจดลิขสิทธิ์สิ่งที่พระองค์ค้นพบเมื่อ ๒,๕๐๐ กว่าปีมาแล้ว ก็คงไม่มีพุทธศาสนา จริงไหมคะ
เมื่อก่อนข้าเจ้าก็บ่เข้าใจ แต่เฒ่าแก่มานี้ชอบคำพรที่คนไทยมักให้แก่กันว่า ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลให้
ครูบาอาจารย์ท่านว่าเป็นการอ้างถึง ๒ อำนาจ และ ๑ เป้าหมายที่จะคุ้มครองชีวิตของกันและกันอันเป็นความเข้าใจที่หยั่งลงลึกสู่วิถีธรรมชาติ
เราน่าจะเสนอให้แฟน ๆ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ในโลกตะวันตกปั๋นปอน (ให้พร) แก่กันด้วยการอ้างความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อมด แม่มดบ้าง แล้วไม่รู้ว่าคริสตจักรในยุคนี้จะว่าอย่างไร
ถ้างั้นก็จะถือโอกาสนี้ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลให้คุณและครอบครัว จงประสบแต่ความสุข ความเจริญในทุก ๆ ด้านเจ้า
ด้วยรัก
ใบคำ
|