สาธุคุณเกย์ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันเสาร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๔๖
โลกสีม่วงคาดสายรุ้งของชาวเกย์บนโลกเบี้ยว ๆ ใบนี้กลายเป็นหัวข้อให้ถกเถียงกันอีกแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการพูดคุยกันว่าสังคมยอมรับรสนิยมไม้ป่าเดียวกันมากขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับดร.เจฟฟรี่ จอห์น แห่งกรุงลอนดอนเป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า สังคมยังไม่สามารถเปิดประตูอ้าซ่ายอมรับชาวเกย์ได้อย่างหมดใจ
ดร.เจฟฟรี่ จอห์น |
|
คงเดากันได้ว่า ดร.จอห์นที่กำลังแอบมองนี้เป็นเกย์อย่างแน่นอนแต่ที่ทำให้ ดร.จอห์นเป็นเกย์ที่ไม่เหมือนใครก็คือ ท่านเป็นบาทหลวงในนิกายแองกลิกันเชิร์ชแห่งเกาะอังกฤษ และมาแปลกกว่าคนอื่น เพราะกล้าประกาศตัวว่า "อาตมานั้นเป็นเกย์"
ธรรมดาบาทหลวงในศาสนาคริสต์นั้นต้องสาบานว่า จะยึดมั่นในพรหมจรรย์และถึงแม้พระคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บัญญัติห้ามไว้ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าสังคมบาทหลวงไม่น่ามีเกย์ใดเข้ามาเกี่ยวข้อง
ท่านสาธุคุณจอห์นยังช็อกวงการต่อไปอีกว่า ท่านมีคู่เป็นตัวเป็นตนและอยู่ด้วยกันมานานกว่า ๒๗ ปี แต่อย่างไรก็ตามสาธุคุณผู้นี้ก็ยืนยันว่า ท่านไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศมานานแล้วตั้งแต่ประมาณปี ๒๕๓๓ ทำให้ท่านไม่ผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับศาสนา
เรื่องสาธุคุณเกย์นี้น่าจะเป็นเรื่องถกเถียงกันในวงแคบ เพราะท่านเป็นนักบวชของโบสถ์เซาท์วอล์ค ซึ่งอยู่ใกล้กรุงลอนดอน แต่ที่เรื่องทั้งเรื่องได้รับความสนใจ และเป็นหัวข้อให้ถกเถียงกันในวงการโบสถ์ทั้งโลก จนเกือบทำให้วงการศาสนาคริสต์ร้าวฉาน เพราะท่านสาธุคุณผู้นี้ได้รับการแต่งตั้งให้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะหรือบิชอพแห่งเรดดิ้ง
ผู้ที่เสนอชื่อสาธุคุณจอห์นก็คือ ริชาร์ด แฮรีส์ บิชอพแห่งออกฟอร์ด ซึ่งให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ท่านเสนอชื่อสาธุคุณจอห์นเป็นบิชอพ เพราะท่านจอห์นมีความรู้ความสามารถและว่าท่านเสนอทั้ง ๆ ที่รู้ว่าท่านจอห์นเป็นเกย์ เพราะท่านไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกันตรงไหน ข้อเสนอของท่านได้รับการอนุมัติตามประสงค์ และท่านจอห์นมีกำหนดที่จะเข้าพิธีรับตำแหน่งในเดือนตุลาคมนี้
เมื่อข่าวแพร่ออกไป การแต่งตั้งได้รับการคัดค้านอย่างมากจากโบสถ์แองกลิกันเชิร์ชจากทุกสารทิศ แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากโบสถ์หลายแห่งเช่นเดียวกัน พวกที่คัดค้านจะบอกว่าการเป็นเกย์ โดยเฉพาะสังคมนักบวชแล้วไม่เป็นไปตามพระคัมภีร์
ทางโบสถ์ก็บอกว่า ไม่ต้องบอกว่าเป็นเกย์หรือไม่ แค่บอกว่าเคยมีความสัมพันธ์ทางเพศ (ไม่ว่ากับหญิงหรือชาย) ก็ผิดหลักศาสนา หรือถ้าจะเปลี่ยนรสนิยมทางเพศที่ว่าก็จะเป็นการดี
หลังจากโดนประท้วงอย่างหนักจากโบสถ์ต่าง ๆ และประชาชนส่งจดหมายด่าว่าวิพากษ์วิจารณ์กรณีดังกล่าวมากมาย ท่านบิชอพแห่งเรดดิ้งที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งมาหมาด ๆ ก็ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพราะท่านบอกว่าไม่ต้องการทำลายความเป็นหนึ่งเดียวและความสามัคคีของศาสนาคริสต์
คราวนี้เราลองมาฟังความทางสาธุคุณจอห์นบ้าง ท่านว่า "อาตมาไม่มีวันเลิกเป็นเกย์ อาตมาจะยึดมั่นไปจนตลอดชีวิต อาตมาไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศมานานหลายปีแล้ว อาตมาว่าความรักและการยึดมั่นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด"
ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านรู้ตัวว่าเป็นเกย์เมื่อเป็นวัยรุ่นและรู้ว่าเรื่องนี้จะต้องมีปัญหาเข้าสักวันหนึ่ง ในช่วงแรกก็ต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างมากจนในที่สุดต้องขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า ท่านว่าการแต่งตั้งให้ท่านมีตำแหน่งสูงในโบสถ์เป็น "สัญลักษณ์ของความหวังของคนมากมาย"
ท่านยังพูดถึงการแต่งงานของเพศเดียวกันในโบสถ์ว่า โบสถ์ควรยอมรับที่จะให้มีการแต่งงานของเกย์ และบาทหลวงควรจะยอมประสาทพรให้กับคู่แต่งงานประเภทนี้ด้วย ถึงแม้ท่านและเพื่อนชายไม่มีความประสงค์จะเข้าพิธีดังกล่าวเลยก็ตาม
สาธุคุณจอห์นขอแอบกัดเล็ก ๆ ว่าโบสถ์มักจะประกาศต้อนรับคนทุกเพศทุกวัย แต่ศาสนาก็เป็นสถาบันหนึ่งในไม่กี่สถาบันที่ยังไม่ยอมรับความเท่าเทียมกันของชาวเกย์
เรื่องของสาธุคุณจอห์นในฟากอังกฤษ ดูจะแตกต่างจากโบสถ์แองกลิกันเชิร์ชในฝั่งอเมริกา เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองมีการแต่งตั้งบาทหลวงเกย์คนหนึ่ง นามว่า ท่านสาธุคุณจีน โรบินสัน ให้เป็นบิชอพแห่งนิวแฮมเชียร์ กรณีของท่านจีนได้รับความสนใจมาก เพราะเดิมทีท่านแต่งงานอยู่กินกับภรรยา จนกระทั่งมีลูกถึงสองคน และจนวันหนึ่งเมื่อท่านยอมรับว่าท่านนิยมไม้ป่าเดียวกัน ท่านก็จัดการหย่ากับภรรยาและมาอยู่กินกับเพื่อนชายอย่างออกหน้าออกตา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ประเทศแคนาดาก็อนุญาตให้มีการแต่งงานของเพศเดียวกันในโบสถ์ได้
อย่างนี้คริสตจักรของประเทศอังกฤษในตอนนี้คงได้แต่อิจฉาเพื่อน ๆ ร่วมศาสนาในฝั่งอเมริกา และคงต้องหมั่นสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าให้เกิดความเท่าเทียมกันทางเพศโดยเร็วที่สุด อาเมน..
|