เสขิยธรรม -
ประเด็นร้อน
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | แผนผังไซต์

เวิร์กช็อปผ้าเหลือง 'วิษณุ' กล่อมแก้กม.สงฆ์


กองบรรณาธิการ ไทยโพสต์ ฉบับ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๖

รัฐบาลจัดเวิร์กช็อปแก้ปัญหาวงการผ้าเหลือง "วิษณุ" ระบุถึงเวลาแก้ กม.สงฆ์ เสนอตั้งองค์กรอิสระจ้าง ผจก.ซีอีโอดูแลศาสนสมบัติ อุดช่องว่างคนเข้าตักตวงผลประโยชน์

           มีการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการระดับชาติเรื่อง "การส่งเสริมความเจริญมั่นคงของพระพุทธศาสนา" ซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบฯ เมื่อวันที่ ๑๐ ธ.ค.

          สมเด็จพระพุฒาจารย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชฯ กล่าวสัมโมทนียกถาเปิดการประชุมครั้งนี้ว่า หลักความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนานั้น พระสังฆาธิการทั้งหมดต่างรู้ดี เพราะพระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว ขอให้น้อมนำสู่การปฏิบัติให้มากที่สุด แล้วปัญหาต่างๆ ก็จะได้รับการแก้ไข

          สมเด็จพระพุฒาจารย์กล่าวอีกว่า การได้ของพระพุทธศาสนาคือมหาชนจักต้องพึงได้ ดังนั้นต้องนึกถึงส่วนรวม มหาชนได้ พระพุทธศาสนาก็ได้ด้วย ลดการเห็นแก่พวกตน เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกสวัสดี นอกจากนี้ขอให้ลดกิเลสเอาความคิดเห็นส่วนตนเป็นที่ตั้ง หรือเอาไปสวมให้ผู้อื่น ขอให้บอกแก่ตนเองว่า นั่นคือความคิดตนเอง ไม่ใช่ความคิดผู้อื่น

          นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายแนวทางความร่วมมือระหว่างรัฐกับคณะสงฆ์ ในการแก้ปัญหาเพื่อความเจริญมั่นคงของพระพุทธศาสนาว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติตั้งมาได้ปีเศษ ได้รับหนังสือร้องเรียนปัญหาของพระพุทธศาสนาจำนวนมาก แบ่งเป็น ๖ ปัญหาใหญ่ๆ คือ ปัญหาความประพฤติของพระ ปัญหาคนที่เกี่ยวข้องกับพระ เช่น ไวยาวัจกร ปัญหาเรื่องศาสนสมบัติ ปัญหาการศึกษาของคณะสงฆ์ ปัญหาการสร้างวัด ศิลปวัตถุและศิลปกรรมภายในวัด และปัญหาการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

          รองนายกฯ กล่าวว่า ปัญหาต่างๆ ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากคณะสงฆ์และฆราวาส สิ่งที่ต้องขอความร่วมมือมหาเถรสมาคม (มส.) คือมาตรา ๑๙ ใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งกำหนดให้สมเด็จพระสังฆราช หรือมหาเถรสมาคมตั้งคณะกรรมการเพื่อสนองงานในเรื่องต่างๆ มีผลดีคือช่วยกลั่นกรองงานได้หลายชั้น และยังช่วยกระจายงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กว้างขวางขึ้น

          นายวิษณุให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ส่วนตัวต้องการแก้ปัญหาศาสนสมบัติ ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่าส่วนไหนเป็นสมบัติพระ ส่วนไหนเป็นสมบัติวัด และส่วนใดเป็นศาสนสมบัติกลาง เพราะสมบัติพระที่ได้จากการติดกัณฑ์เทศน์หรือประชาชนถวายพระ เป็นสิทธิส่วนตัวของพระ และสิ่งใดที่ถวายให้เป็นสมบัติของวัดนั้นๆ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ นอกจากจะมีการร้องขอจากวัดให้เข้าไปดูแล ยิ่งสมบัติของพระ พระก็มีสิทธิทำพินัยกรรมยกให้ผู้อื่น หากไม่ได้ทำพินัยกรรมจึงจะตกเป็นของวัด สำนักพระพุทธศาสนาฯ จึงดูแลแต่ศาสนสมบัติกลาง

          นายวิษณุเสนอแนวคิดว่า จำเป็นต้องมีองค์กรกลาง หรือองค์กรอิสระเข้ามาดูแลศาสนสมบัติกลาง โดยมีผู้จัดการเป็นซีอีโอบริหารงานให้เกิดดอกเกิดผล เนื่องจากปัจจุบันมีปัญหามาก เพราะมีผู้ใช้ช่องว่างที่พระสังฆาธิการชราภาพมาตักตวงผลประโยชน์ ยากที่ข้าราชการกว่า ๒๐๐ คนจะดูแลทั่วถึง แต่ขณะนี้ติดขัดระเบียบและข้อกฎหมาย พ.ร.บ.สงฆ์ ต้องใช้เวลาถวายข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบบริหารให้ มส.เข้าใจก่อน.. .

หน้าแรก | กลุ่มเสขิยธรรม | ความเคลื่อนไหว |> ประเด็นร้อน | ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
นักบวชกับสังคมร่วมสมัย | จดหมายข่าวเสขิยธรรม | รวมเว็บน่าสนใจ | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม skyd.org
สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน

กลุ่มเสขิยธรรม ภายใต้มูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ๑๔/๖๓ หมู่บ้านสวยริมธาร ๒ ซอย ๕
ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวง/เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐
โทร. ๐๒-๘๐๐-๖๕๒๖ ถึง ๘, ๐๖-๗๕๗-๕๑๕๖ โทรสาร ๐๒-๘๐๐-๖๕๔๙
... e-mail :