เผย "จุด" คาใจ ร่าง พ.ร.บ.จัดรูปที่ดิน
เปิดช่องฮุบธรณีสงฆ์?
รายงาน หน้า ๒ มติชนรายวัน ฉบับวันที่ ๑๙ เม.ย. ๒๕๔๗ ปีที่ ๒๗ ฉบับที่ ๙๕๓๗
หมายเหตุ : "มติชน"-ร่าง พ.ร.บ.จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. .... ซึ่งผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาแล้ว กำลังจะนำเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในเร็วๆ นี้ ได้รับการคัดค้านจากศูนย์พิทักษ์พุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และพุทธศาสนิกชนบางส่วนเนื่องจากมีหลายมาตราที่ผู้คัดค้านเกรงว่า จะเปิดช่องให้กลุ่มนายทุนฮุบที่ดินวัด ธรณีสงฆ์ และศาสนสมบัติกลาง
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้คณะกรรมการประสานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือวิปรัฐบาล เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการร่วมสองสภาขึ้นศึกษาร่างดังกล่าวแล้ว
จึงขอนำแถลงการณ์ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ในเรื่องดังกล่าวมาเผยแพร่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ทราบรายละเอียด
คณะกรรมการบริหารศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย พร้อมองค์กรเครือข่ายชาวพุทธ ได้ประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว มีมติไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. .... ในมาตราต่างๆ ที่เกี่ยวกับที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลาง ด้วยเหตุผลดังนี้ :-
๑.ที่ดินวัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลาง บุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าของไทย ได้ถวายเป็นพุทธบูชา ไว้ในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่กรุงสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน เพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา โดยมี พระภิกษุ สามเณร เป็นศาสนทายาท ตลอดจนอุบาสก อุบาสิกา ช่วยดูแลรักษา ซึ่งทำให้พระพุทธศาสนามีความเจริญมั่นคง คู่กับสถาบันชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ที่ใดถวายสงฆ์แล้วพระมหากษัตริย์ก็ไม่ทรงเอาคืน
๒.ตามร่าง พ.ร.บ.จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. .... มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ ในหมวดที่ ๑ จำนวน ๒๕ คน และคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ส่วนจังหวัด ในหมวด ๒ จำนวน ๑๘ คน โดยไม่มีพระสงฆ์ตั้งแต่คณะกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ทรงคุณวุฒิทางพระพุทธศาสนา หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และจังหวัด เข้าเป็นกรรมการแต่อย่างใด ทั้งมีอำนาจครอบคลุมทุกอย่างเป็นการจงใจหรือมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ต่อพระพุทธศาสนา และเป็นการมุ่งทำลายพระสงฆ์โดยตรง
๓.ร่าง พ.ร.บ.จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ฉบับนี้ เลือกปฏิบัติเฉพาะที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ ที่ศาสนสมบัติกลาง ของพระพุทธศาสนาเท่านั้น ขณะที่ ที่ดิน หรือศาสนสมบัติของศาสนาอื่นมีอยู่จำนวนมาก กลับไม่มีการกล่าวถึงแต่อย่างใด
จึงขอให้ทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ร่าง พ.ร.บ.จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. .... ตัดข้อความต่างๆ ทุกมาตราออกจากร่าง พ.ร.บ. คือ ในมาตรา ๖ (๙) มาตรา ๑๓ (๖) มาตรา ๔๐ (๑๐) วรรคสุดท้าย มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง วรรคสาม และ (๖) ทั้งบรรทัด และมาตรา ๕๕
เปิดรายละเอียดรายมาตรา
เปิดช่องฮุบธรณีสงฆ์?
มาตรา ๕ แต่งตั้งคณะกรรมการจัดรูปที่ดินปิดโอกาสบุคลากรทางพระพุทธศาสนามิให้เข้าไปเกี่ยวข้องรับรู้เลย แม้แต่ผู้เดียวไม่ว่าผู้แทนมหาเถรสมาคม หรือ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ : เป็นการวางแผนยึดอำนาจยึดสมบัติพระพุทธศาสนา
มาตรา ๖ คณะกรรมการจัดรูปที่ดินมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
----------------
(๙) ออกระเบียบเกี่ยวกับการนำที่ดินของรัฐ ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือศาสนสมบัติกลางมาใช้ การจัดที่ดินอื่นทดแทนที่ดินของรัฐ ที่วัดที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลาง และการเวนคืนที่ดินในเขตดำเนินการจัดรูปที่ดิน
มาตรา ๑๓ ให้คณะกรรมการส่วนจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
---------------
(๖) เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการเกี่ยวกับการนำที่ดินของรัฐ ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลางมาใช้ การจัดหาที่ดินทดแทนที่ดินของรัฐ ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลางและการเวนคืนที่ดินในเขตโครงการจัดรูปที่ดิน
มาตรา ๔๐ ผู้ที่ดำเนินการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ต้องเสนอโครงการจัดรูปที่ดินต่อคณะกรรมการส่วนจังหวัดก่อน เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่วนจังหวัดแล้วจึงจะดำเนินการได้
การเสนอโครงการจัดรูปที่ดินให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา รายละเอียดของโครงการอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
--------------------------
(๑๐) รายการอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนด
โครงการจัดรูปที่ดินในพื้นที่ใดถ้ามีที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นที่จะจัดเพื่อจำหน่าย หรือที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ของรัฐ ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลางที่จำเป็นต้องนำมาใช้ พร้อมทั้งบริเวณที่จัดขึ้นเป็นการทดแทน และรายละเอียดเกี่ยวกับการรื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายสิ่งที่จัดทำเพื่อสาธารณูปโภคหรือสาธารณูปการ ให้กำหนดไว้เป็นรายละเอียดของโครงการด้วย
มาตรา ๕๔ ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ขององค์การของรัฐบาล องค์การมหาชน หรือหน่วยงานที่มีกฎหมายคุ้มครองการโอนโดยเฉพาะ ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลาง ในเขตดำเนินการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ ถ้าผู้ดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินจำเป็นจะต้องนำมาใช้ในการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ให้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
การพิจารณาของคณะกรรมการ จะต้องเชิญผู้แทนหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์นั้น มาร่วมพิจารณาด้วย
เมื่อคณะกรรมการให้ความเห็นชอบให้นำที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ตามวรรคหนึ่ง มาใช้ในโครงการจัดรูปที่ดินแล้ว ให้มีผลเป็นการถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับที่ดินดังกล่าว โดยมิต้องดำเนินการถอนสภาพหรือโอนตามประมวลกฎหมายที่ดิน กฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ กฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ หรือกฎหมายอื่นเกี่ยวกับที่ดินนั้น และให้ผู้ดำเนินโครงการ จัดรูปที่ดินมีอำนาจใช้ที่ดินภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
------------------------------
(๖) ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลาง เมื่อมหาเถรสมาคมให้ความเห็นชอบแล้ว
มาตรา ๕๕ ผู้ดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินจะเปลี่ยนสภาพของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา ๕๕ ให้เป็นเช่นใดก็ได้ ตามโครงการจัดรูปที่ดินที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่วนจังหวัด ยกเว้นที่วัดตามมาตรา ๕๔ (๖) จะเปลี่ยนแปลงสภาพเฉพาะรูปแปลงที่ดินเท่านั้น แต่เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจำนวนเนื้อที่ของที่ดินของรัฐ ที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ศาสนสมบัติกลางรวมกันทั้งหมดจะต้องมีขนาดไม่น้อยกว่าเดิม ทั้งนี้ ในกรณีที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา ๕๔ (๓) (๔) (๕) และ (๖) ให้นำความในมาตรา ๖๑ และมาตรา ๖๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม..
|