เลี้ยงไก่ผิดธรรมชาติ
หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ
จากหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ฉบับวันจันทร์ ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗
คอลัมน์คุณธรรมคมชัดลึก หลวงพ่อคูณ หน้าพระเครื่อง
กูเห็นว่า...ปัญหาโรคไข้หวัดนกมันเป็นปัญหาใหญ่ที่ไประบาดติดกับไก่บ้านเรา ในตรงนี้กูคิดว่าเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขกันที่ต้นเหตุ
เพราะการเลี้ยงไก่ทุกวันนี้เลี้ยงให้มันกินตลอดเวลาไม่ว่ากลางคืน กลางวันมันก็ไม่ได้นอน ไม่ได้พักผ่อนและอยู่ในที่คับแคบ ให้กินแต่ยากระตุ้นให้มีน้ำหนัก ให้โตเร็ว ๆ มันจึงไม่ได้โตด้วยธรรมชาติ แต่โตแบบผิดปกติ แล้วแบบนี้ยังไปโทษนกมันอีก
จริง ๆ แล้วคนเรานี่แหละเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรค ไม่เฉพาะแต่หวัดนกเท่านั้น ยังมีโรคอื่น ๆ อีกด้วย อย่าหลงแก้โรคหวัดนกจนลืมที่จะแก้โรคอื่น ๆ
กูเห็นว่า...การเลี้ยงไก่ทุกวันนี้มันเลี้ยงแบบกดดัน บีบคั้นจิตใจไก่เพื่อให้มันโตเร็ว ๆ มีน้ำหนักเยอะ ๆ ไก่มันก็เลยระเบิดขึ้น มันก็เหมือนลูกโป่งที่ถูกอัดมาก ๆ มันก็แตก อย่างนี้มันเป็นการทรมานไก่ พวกมึงว่าที่กูพูดจริงไหม
แม้ว่าองค์การอนามัยโลกจะเห็นว่าโรคไข้หวัดนกมาสู่ไก่จะไม่เป็นอะไรต่อคนมาก ถ้าทำกันสุก ๆ ก็ว่านั่นมันก็เป็นความเห็นของเขา เลี่ยงไม่กินไก่ได้ก็เลี่ยงไปเสียจะดีกว่า กูอยากบอกว่า...ไม่ได้กินไก่ก็หันไปกินผักน้ำพริก หรือกินอาหารทะเลก็ได้ กินกันเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว อย่าไปแสวงหาการกินอะไรเกินความพอดีเลย
เรื่องความกลัวตายใคร ๆ ก็กลัวตายกันทั้งนั้น ไม่เว้นแต่พระสงฆ์เมื่อกินอะไรแล้วจะทำให้เกิดโรคซึ่งจะนำไปสู่ความตายคนก็เลี่ยงที่จะกินสิ่งนั้น ต่อให้กินไก่โชว์สักร้อยครั้งพันหนมันก็ไม่ได้ผลดอก เพราะความกลัวตายมันเป็นธรรมชาติของคน
กูพูดแบบนี้ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็ไม่เป็นอะไร แต่กูเชื่อของกูแบบนี้อะไรที่มันถูกกดดันมากเกินไป ถึงเวลามันก็แตก คนไทยไม่ใช่คนโง่บอกหรือให้ดูอะไรก็เชื่อไปหมด
ใคร ๆ ก็รักชีวิตใคร ๆ ก็กลัวตาย ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน เมื่อถูกกดดันอะไรมาก ๆ ถึงเวลามันก็แตก มันก็ระเบิด ถึงเวลานี้แล้วอย่าไปโทษใครเลย ต้องโทษตัวเอง
กูขอบอกตรงนี้เลยว่า เรื่องโรคระบาดของไก่ ล้วนแต่เกิดจากกิเลสและความโลภของคน เพราะทุกวันนี้พวกเรามันมีแต่ความโลภ อยากมี อยากรวย ไม่คำนึงถึงชีวิตของไก่ เนื่องจากไก่มันก็มีชีวิต มีจิตใจเช่นเดียวกันคน ปัญหาเหล่านี้จะลดลงได้ก็ต้องลดความโลภที่มีอยู่ในตัวเราเองด้วย..
|