เสขิยธรรม
ประเด็นร้อน
-
หน้าแรก | สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน | แผนผังไซต์

แฉในวงสัมมนา แผนร้าย มีสังฆราช ๒ องค์


ไทยรัฐ ปีที่ ๕๔ ฉบับที่ ๑๖๗๖๑ วันศุกร์ที่ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๖

          เงาอันตรายที่ส่อแววจะทำลายพระพุทธศาสนาครั้งนี้ เป็นที่เปิดเผยขึ้นในการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการระดับชาติ เรื่องการส่งเสริมความเจริญมั่นคงของพระพุทธศาสนา ซึ่งจัดขึ้นที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ ๑๑ ธ.ค. มีพระสังฆาธิการทั่วประเทศประมาณ ๓๐๐ รูป เข้าร่วมในการสัมมนา โดยมีพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นผู้แทนมหาเถรสมาคม

โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่เข้าร่วมสัมมนากล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ของคณะสงฆ์ มีปัญหาน่าเป็นห่วง ควรจะต้องมีการปรับตัว ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมอย่างเร่งด่วน ไม่อย่างนั้นจะอยู่ไม่ได้ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการปฏิรูประบบราชการ ที่ทำให้ระบบถูกตรวจสอบควบคุมจากประชาชนมากขึ้น ขณะที่ประชาชนเองก็คาดหวังจากคณะสงฆ์ เนื่องจากมีการเรียกร้องให้มีสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่ ๑ ปีที่ผ่านมา คณะสงฆ์ยังปรับตัวไม่ทัน เกรงว่าวันหนึ่งประชาชนจะลุกขึ้นมาเรียกร้องถามหาความโปร่งใสจากพระสงฆ์ เช่น การสร้างวัดที่ประชาชนบริจาคแล้วใช้เวลาในการก่อสร้างนานมากเป็นต้น นอกจากนี้ ศาสนาอื่นก็ชิงปรับตัวมากขึ้น มีการจัดตั้งธนาคาร มี พ.ร.บ.จัดระเบียบองค์กร ส่วนของพระพุทธศาสนาเอาแค่ในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา ถามว่าคณะสงฆ์ได้ทำอะไรไปบ้าง

ที่สำคัญขณะนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า มีความพยายามที่จะนำจุดอ่อนของคณะสงฆ์ออกมาตีแผ่มากว่า คณะสงฆ์อ่อนแอ ตั้งแต่มหาเถรสมาคมลงมาถึงเจ้าอาวาส อย่างไรก็ตาม การปรับตัวของคณะสงฆ์คงลำบาก เพราะมีการวิจัยออกมาว่า องค์กรที่ปฏิรูปยากเพราะทำงานอยู่กับกฎ ระเบียบ และวินัย คือ ๑.นักกฎหมายโดยเฉพาะผู้พิพากษา ๒.ทหาร และ ๓.พระสงฆ์ แต่ปัจจัยที่เป็นตัวเร่งให้คณะสงฆ์ต้องรีบปรับตัว เพราะมีแนวโน้มอันตราย ๓ ประการที่ได้รับรายงานจากหน่วยงานด้านข่าวกรองหลายหน่วย ที่น่าจับตาและเฝ้าระวังคือ ๑.มีความแบ่งแยกให้มีสมเด็จพระสังฆราช ๒ พระองค์ ตามนิกายคือ ธรรมยุตกับมหานิกาย นิกายละ ๑ รูป ๒.มีความพยายามขอตั้งนิกายใหม่เพิ่มขึ้นเยอะมาก และ ๓.มีความพยายามแสดงให้เห็นว่าคณะสงฆ์ไม่น่าไว้วางใจและทำลายความน่าเชื่อถือ เช่น มีการเสนอให้ตรวจสอบทรัพย์สิน และให้พระสงฆ์แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ปปง. ปัญหาเหล่านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วง และนำขึ้นมาหารือกับตนบ่อยครั้ง ซึ่งความพยายามทั้ง ๓ ประการ รัฐบาลนี้คงยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะจะนำมาซึ่งความแตกแยก ไม่เฉพาะต่อพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมั่นคงของประเทศด้วย

นายวิษณุกล่าวต่อไปว่า สิ่งที่อยากจะฝากต่อคณะ สงฆ์ และจะนำไปหารือต่อมหาเถรสมาคมคือ ทุกวันนี้ความประพฤติของพระสงฆ์ค่อนข้างไม่เหมาะสม พฤติกรรม ที่พระสงฆ์ทำผิดมากที่สุดที่ได้รับการร้องเรียนและเกิดขึ้นบ่อยมาก คือ ความผิดเกี่ยวกับทางเพศ ทั้งการข่มขืน ล่อลวง กระทำชำเรา รองลงมาคือการนำเงินของพุทธศาสนิกชนที่บริจาคมาเป็นสมบัติส่วนตัว ปัญหายาเสพติดทั้งเป็นผู้ค้าและผู้เสพ พระชอบสะสมอาวุธ และการทำลายโบราณสถาน อยากจะเสนอกระทรวงยุติธรรม สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติและ ปปง. เข้ามาร่วมดำเนินการ อย่างน้อยให้มีการนำกฎหมายการลงโทษของบ้านเมือง ไปใช้ควบคู่กับกฎหมายของคณะสงฆ์ ลงโทษต่อพระสงฆ์ที่ทำความผิดอย่างเด็ดขาดตั้งแต่การถอดออกจากสมณศักดิ์ จนถึงการลงโทษจำคุกในคดีร้ายแรง และในขณะเดียวกันควรจะมีกระบวนการ หรือระบบยกย่องพระสงฆ์ที่ทำความดีควบคู่กันไปด้วย สิ่งที่อยากจะรีบดำเนินการในฐานะที่สนองงานคณะสงฆ์คือ จะเสนอให้มหาเถรสมาคมควรตั้งโฆษกพระและจัดระเบียบไวยาวัจกรวัดใหม่ ให้เป็นไวยาวัจกรแบบซีอีโอ ซึ่งถ้าทำคุณประโยชน์ต่อวัดต่อพระพุทธศาสนา ตนจะเสนอให้มีการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้.. .

หน้าแรก | กลุ่มเสขิยธรรม | ความเคลื่อนไหว |> ประเด็นร้อน | ศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม
นักบวชกับสังคมร่วมสมัย | จดหมายข่าวเสขิยธรรม | รวมเว็บน่าสนใจ | แผนผังไซต์
เสขิยธรรม https://skyd.org
สมุดเยี่ยม | แนะนำหน้านี้ให้เพื่อน

กลุ่มเสขิยธรรม ๑๒๔ ซอยวัดนพคุณ ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐
โทร. ๐๒-๘๖๓๑๑๑๘, ๐๖-๗๕๗๕๑๕๖ โทรสาร ๐๒-๔๓๗๙๔๔๕
... e-mail :