กลุ่มเสขิยธรรม ยื่นจดหมายเปิดผนึก
"การแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติธรรม"
ถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิน ชินวัตร
เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๕ ณ ทำเนียบรัฐบาล
โดยมี ร.ต.ไพโรจน์ คณึงทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน ทำเนียบรัฐบาล เป็นตัวแทนรับจดหมาย
ภาพจากหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๔๕
|
|
กลุ่มเสขิยธรรม
๑๒๔ ซอยวัดทองนพคุณ ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐
โทร. ๐๒-๘๖๓๑๑๑๘ โทรสาร ๐๒-๔๓๗๙๔๔๕
https://skyd.org อีเมล :
|
๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๕
เรื่อง การแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติธรรม
เจริญพร ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร
ความรุนแรงถึงขั้นเสียเลือดเนื้อจากการปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้คัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ที่จังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้สร้างบาดแผลให้แก่สังคมไทย กรณีดังกล่าวเป็นบทพิสูจน์ว่าสังคมไทยยังไม่สามารถหลุดพ้นจากวังวนแห่งความรุนแรงที่สืบเนื่องจากเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ และ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ จวบจนถึงเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕ หากมีแนวโน้มจะถลำลึกเข้าไปเรื่อย ๆ
ความรุนแรงนั้นมิใช่ทางออกในการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบ เพียงเพื่อต้องการแสดงความคิดเห็นต่อโครงการของรัฐบาล ดังกรณีผู้ชุมนุมประท้วงโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ผลที่เกิดจากความรุนแรงมิใช่เป็นแค่ความสูญเสียฝ่ายรัฐและประชาชนเท่านั้น หากยังก่อความเสียหายแก่สังคมไทยโดยรวม ไม่มีใครที่เป็นผู้ชนะจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ในยามนี้การขยายความขัดแย้งให้ลุกลามมากขึ้นมีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง กลุ่มเสขิยธรรมอันประกอบด้วยบรรพชิตและคฤหัสถ์ที่ปรารถนาศานติธรรมในสังคมไทย ใคร่ขอวิงวอนรัฐบาลว่า สิ่งที่จำเป็นต้องทำอย่างรีบด่วนเวลานี้มิใช่การกล่าวโทษอีกฝ่ายหนึ่ง อันรังแต่จะเพิ่มความโกรธเกลียดให้มากขึ้น รัฐบาลควรมีความยับยังชั่งใจ ตั้งสติ หาทางผ่อนหนักเป็นเบา และหันมาทบทวนวิธีการที่ใช้กับผู้ชุมนุมโดยคำนึงถึงหลักสันติวิธีเป็นสำคัญ อีกทั้งพึงถือเป็นบทเรียนสำหรับการปรับปรุงแก้ไขและป้องกันมิให้มีเหตุรุนแรงแบบนั้นอีกในอนาคต ทั้งนี้โดยตระหนักว่ารัฐบาลมิได้ปกครองประเทศด้วยกฎหมายและกำลังเท่านั้น หากยังจำต้องอาศัยธรรมเป็นหลักด้วย โดยเฉพาะเมตตาธรรมและขันติธรรม พึงถือว่าประชาชนที่เห็นต่างจากรัฐบาลเป็นพี่น้องร่วมชาติ ที่สมควรได้รับการปฏิบัติด้วยกรุณาและความเห็นอกเห็นใจ ไม่มองเห็นเป็นปฏิปักษ์หรือแบ่งเขาแบ่งเรา ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมองผู้ชุมนุมด้วยท่าทีเช่นน ี้เป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่นำไปสู่การปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับประชาชนในเหตุการณ์ที่ผ่านมา
สังคมไทยกำลังเดินไปสู่หนทางแห่งความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชนมากขึ้นเรื่อย ๆ อันเนื่องจากโครงการของรัฐจำนวนมากมายที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมทั้งโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซียซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะยุติง่าย ๆ กลุ่มเสขิยธรรมใคร่เห็นความผิดพลาดในเหตุการณ์ล่าสุด เป็นบทเรียนสำหรับรัฐในการปรับเปลี่ยนแนวทางจัดการกับความขัดแย้งให้เป็นไปในทางสันติ เพื่อนำพาสังคมไทยให้ก้าวพ้นจากวังวนแห่งความรุนแรงที่ครอบงำมาหลายทศวรรษ ด้วยเหตุนี้จึงหวังว่าความคิดเห็นดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีตามสมควร
ขอเจริญพร
(พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ)
ประธานกรรมการกลุ่มเสขิยธรรม
ในนามกลุ่มเสขิยธรรม
|