๓ องค์กรศาสนาเรียกร้องความสมานฉันท์
โดย ผู้จัดการออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗
วานนี้ (๒๘ ม.ค.) เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ อนุสรณ์สถาน ๑๔ ต.ค. ๒๕๑๖ บริเวณสี่แยกคอกวัว ทางองค์กรศาสนาทั้ง ๓ องค์กร ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก และศาสนาอิสลาม จัดให้มีการเสวนาในหัวข้อ ประณามการใช้ความรุนแรง เรียกร้องความสมานฉันท์ และการแก้ไขปัญหาด้วยหลักศาสนธรรม โดยมีผู้เข้ารับฟังการเสวนา ๕๐ คน
พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานกลุ่ม เสขิยธรรมกล่าวว่า จากสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตอนล่าง ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในขณะนี้ หากพิจารณาโดยรอบคอบจะพบความต่อเนื่องของปัญหากับสาเหตุได้ไม่ยากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีอำนาจรัฐและผู้เกี่ยวข้องยอมรับในเหตุผลและความถูกกกต้อง โดยไม่ปฏิเสธข้อเท็จจริง ซึ่งจะขอเรียกร้องเป็นกรณีพิเศษต่อฝ่ายต่างๆ ดังนี้
๑.รัฐบาลจะต้องยุติการริเริ่ม มุ่งเน้นที่จะใช้กองกำลังและอาวุธตลอดจนวิธีการอันนำซึ่งความรุนแรงในทุกรูปแบบ แล้วหันมาสร้างบทบาทในฐานะเป็นตัวกลางประสานความร่วมมือจากทุกฝ่าย ภายใต้หลักศาสนธรรม แทนที่จะเจาะจงแสวงหาคนร้าย ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อย แต่จะก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้คนส่วนใหญ่
๒. สื่อมวลชนทุกประเภทจะต้องเป็นกลาง ที่มุ่งนำเสนอทางออกและข้อมูลที่ถูกต้อง ดีกว่าที่จะนำเสนอเหตุการณ์โดยมุ่งขายความตื่นเต้นอันน่าตระหนก ยากแก่การเข้าใจภาพรวมของข้อเท็จจริงของเหตุการณ์
๓.ศาสนิกชนทุกศาสนาจะต้องหันหน้าเข้าหากัน สามัคคีกันนำหลักศาสนธรรม อันเป็นแก่นของแต่ละศาสนามาใช้เป็นเครื่องมือ นำพาทุกฝ่ายออกจากวิกฤตนี้
๔.องค์กรศาสนา จะต้องประสานความร่วมมือ ถือวิกฤตให้เป็นโอกาสปรับโครงสร้างและแสวงหาลู่ทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งในระยะสั้น และแสวงหาทางออกในระยะยาวที่มั่นคงยั่งยืน
การแก้ปัญหาด้วยการใช้ความรุนแรงเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แม้ว่าจะทำให้ปัญหายุติลงในบางระดับ แต่มักจะก่อให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกทั้งยังจะเป็นสาเหตุให้เกิดความรุนแรงในด้านอื่นๆ ขึ้นอีก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
อาตมาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสมานฉันท์ระหว่างศาสนิกและองค์กรทางศาสนา ภายในขอบเขตแห่งรัฐ ตลอดจนร่มเงาบรมโพธิสมภารแห่งพระมหากษัตริย์ นับเป็นองค์ศาสนูปถัมภ์ภก จะเป็นเป้าหมายให้ทุกฝ่ายมีความวิริยะอุตสาหะ ที่จะไปให้ถึงความสันติภาพสันติสุขและภราดรภาพร่วมกัน ..
|