โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วมประกอบด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิชาติ ทองอยู่ โฆษกพรรคมหาชน นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทย ยกเว้นพรรคไทยรักไทย
พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ ประธานกลุ่มเสขิยธรรม กล่าวว่าการเสวนา ครั้งนี้เพื่อให้ทุกพรรคการเมืองได้แสดงจุดยืนและวิสัยทัศน์ด้านศาสนา แต่บางพรรคไม่ให้ความสนใจ โดยเฉพาะพรรคไทยรักไทยได้ปฏิเสธไม่ประสงค์จะมาร่วมกิจกรรมเพราะไม่มีเวลา แต่อาตมาแปลกใจว่าทำไมรัฐบาลมีเวลาตัดสินใจในหลายเรื่อง ทั้งที่ฐานะเป็นรัฐบาลรักษาการเท่านั้น
นายบัญญัติกล่าวว่า ประชาธิปัตย์มีนโยบายที่จะสร้างคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และคุณธรรม เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาได้ และส่งเสริมให้นักบวชในทุกศาสนาได้เผยแพร่ศาสนาตามขนบธรรมเนียมของแต่ละชุมชน ทั้งนี้ ประชาธิปัตย์มีนโบายลด ละ เลิก อบายมุข ในหมู่ประชาชน เช่นหวยบนดินเพราะเป็นอบายมุข ทำให้คนไปฝากอนาคตไว้กับการพนัน สิ่งเหล่านี้บ่งบอกภาวะผู้นำบกพร่องทั้งสิ้น ทางพรรคประชาธิปัตย์ของเราจะไม่ทำ แม้แต่เรื่องของธรณีสงฆ์บางแห่งที่ได้ทำให้ถูกกฎหมาย จนทำเป็นสนามกอล์ฟไปเรียบร้อย และยังจะนำกฎหมายให้มีเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อยกอำนาจพิเศษที่สามารถเวนคืนเอาที่ดินตรงไหนก็ได้ เอามาใช้ในโครงการ ไม่เว้นแม้แต่ที่ดินธรณีสงฆ์
ด้านนายอภิชาติกล่าวว่า ๔ ปีที่ผ่านมารัฐบาลพรรคไทยรักไทยพยายามจะนำประเทศเข้าสู่โลกาภิวัฒน์ มุ่งเน้นแต่ตัวเลขจีดีพี เห็นความรวยเป็นสิ่งสวยงาม บอกว่าความจนเป็นสิ่งเลวร้าย แต่ข้อเท็จจริงหนี้สินภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็นกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีแค่หกหมื่นล้านบาท พรรคจะตั้งกองทุนศาสนาเพื่อการพัฒนา เพื่อส่งเสริมบทบาทของพระสงฆ์ อิหม่ามและบาทหลวง ในการสร้างศีลธรรมให้กับสังคม พรรคจะปฏิเสธอบายมุขทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหวย บ่อน ช่อง เพราะว่าเราไม่ภูมิใจกันว่าวัด โบสถ์ มัสยิด เจริญรุ่งเรืองจากเงินที่เกิดจากการนำเงินอบายมุขมาใช้
นายนิกรกล่าวว่า พรรคชาติไทยชูนโยบายด้านศาสนา สังคม เป็นแนวสัจจะนิยม และจะเสนอแต่เรื่องที่เป็นจริง พูดแต่สิ่งที่เป็นไปได้ รวมทั้งเน้นการทำเทื่อสังคมชุมชน สนับสนุนในทุกศาสนาไว้ค่อนข้างอยู่มาก โดยที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคไทยรักไทยบอกไว้ชัดเจนว่าเป้าหมายเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านไม่สำคัญ เพียงแต่ดำรงอยู่รักษาชีวิตของพรรคไว้เท่านั้นเอง..