กระดานข่าวเสขิยธรรม เสขิยธรรม : : skyd.org

 ช่วยเหลือช่วยเหลือ   ค้นหาค้นหา   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก   กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   สมัครสมาชิก(Register)สมัครสมาชิก(Register)
 ข้อมูลส่วนตัว(Profile)ข้อมูลส่วนตัว(Profile)   เข้าสู่ระบบเพื่อเช็คข้อความส่วนตัวเข้าสู่ระบบเพื่อเช็คข้อความส่วนตัว   เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)

พระใต้เปลี่ยนศาสนกิจใหม่

 
สร้างหัวข้อใหม่   ตอบ    กระดานข่าวเสขิยธรรม -> กระแสโลก
อ่านหัวข้อก่อนหน้า :: อ่านหัวข้อถัดไป  
ผู้ตั้ง ข้อความ
q
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: Wed Jun 02, 2004 07:12    เรื่อง: พระใต้เปลี่ยนศาสนกิจใหม่ ตอบโดยอ้างข้อความ

Arrow พระใต้เปลี่ยนศาสนกิจใหม่

โดย ผู้จัดการรายวัน 1 มิถุนายน 2547 22:39 น.


ผู้จัดการรายวัน-พระภิกษุ-สามเณรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ผวาภัยก่อการร้ายหนัก บางวัดเหลือเพียงเจ้าอาวาสเฝ้ากุฏิ พร้อมเปลี่ยนแปลงศาสนกิจประจำวันใหม่ "บิณฑบาตรในวัด-สวดศพช่วงเย็น เวียนเทียนกลางวัน"
พระราชคุณาธาร เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส และเจ้าอาวาสวัดประชุมชนธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ยอมรับว่า หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้พระภิกษุและสามเณรในพื้นที่ จ.นราธิวาส ต้องอยู่ในความหวาดผวา ไม่กล้าออกไปบิณฑบาตรในตอนเช้านอกอาณาเขตบริเวณวัด เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากผู้ที่ไม่ประสงค์ดีจ้องที่จะประทุษร้ายพระ
แต่ทางวัดโดยเจ้าอาวาสวัดก็ไม่ได้ละทิ้งกิจของสงฆ์ ได้มีการเปลี่ยนแปลงศาสนกิจประจำวันในแต่ละวันใหม่ โดยเฉพาะการบิณฑบาตรในตอนเช้า จากเดิมพระภิกษุและสามเณรจะต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อออกไปบิณฑบาตรตามชุมชน หรือตามหมู่บ้านต่างๆ ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นให้พุทธศาสนิกชน และประชาชนทั่วไป ทำอาหารมาทำบุญใส่บาตรภายในบริเวณวัดแทน
ส่วนงานพิธีต่างๆ ภายในชุมชนหรือตามหมู่บ้านที่จะต้องนิมนต์พระภิกษุและสามเณร ไปประกอบพิธีทางศาสนาก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะงานศพที่จัดภายในชุมชนหรือตามหมู่บ้าน จากเดิมที่มีการนิมนต์พระไปสวดพระอภิธรรมในช่วงกลางคืน (เวลา 19.00-20.00น.) แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นก็ต้องเลื่อนเวลาจากช่วงกลางคืนมาสวดในช่วงเย็นในเวลาประมาณ 16.00-17.00น. แทน
ทั้งนี้ ก็เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปและกลับของพระภิกษุและสามเณร เพราะถ้าเป็นช่วงกลางคืนผู้ไม่ประสงค์ดีอาจจะฉวยโอกาสทำร้ายพระภิกษุและสามเณรได้ในระหว่างที่เดินทางไปและกลับวัด รวมทั้งอาจจะส่งผลให้ประชาชนผู้ที่ทำหน้าที่รับ-ส่งพระอาจถูกลอบทำร้ายได้ด้วย
แม้กระทั่ง"วันวิสาขบูชา" ที่ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งปี 2547 นี้ตรงกับวันพุธที่ 2 มิถุนายนนี้ วัดต่างๆ หลายแห่งในพื้นที่ จ.นราธิวาสก็ได้จัดกิจกรรม "วันวิสาขบูชา" ขึ้น
โดยเฉพาะการเวียนเทียน ทางวัดก็ได้จัดให้มีขึ้นในช่วงกลางวัน แทนที่จะจัดในช่วงกลางคืนเหมือนเช่นทุกปีเช่นเดียวกับบางวัดในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และสงขลา ทั้งนี้ เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัยที่ก่อนหน้านี้ได้มีกระแสข่าวออกมาค่อนข้างหนาหูว่า กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีเตรียมที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในช่วงวันดังกล่าว แม้ในช่วงกลางคืนขณะนี้เกือบจะทุกวัดในพื้นที่ จ.นราธิวาส ปัตตานี และยะลา จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เข้าไปดูแลความปลอดภัยให้อย่างเข้มงวดและมีไฟฟ้าเปิดสว่างไสวไปทั่วบริเวณวัดก็ตาม
"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาระยะหลังนี้มีพระลูกวัดหลายแห่งในพื้นที่นราธิวาส ได้ขอย้ายกลับไปจำวัดในภูมิลำเนาตัวเองจำนวนมาก จนบางวัดเหลือเพียงเจ้าอาวาสรูปเดียวที่ยังคงปฏิบัติศาสนกิจอยู่ภายในวัดเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจให้กับพุทธศาสนิกชนและประชาชน" พระราชคุณาธาร กล่าว
และว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่เตือนให้ภาครัฐได้รับทราบถึงปัญหาเป็นอย่างดีว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มันได้ย่างกรายเข้ามาสู่สถาบันศาสนา ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันหลักที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนในชาติแล้ว ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะรัฐบาลจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วนก่อนที่ปัญหานี้จะลุกลามบานปลายใหญ่โตออกไปมากกว่านี้
ผ่านไปที่วัดเขากง อ.เมือง จ.นราธิวาส วัดที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปเวียนเทียนในช่วงกลางวันของวันพรุ่งนี้ (2 มิ.ย.) ปัจจุบันวัดนี้มีพระครูปภัสสร ศิริคุณ เจ้าอาวาสวัดเขากง จำวัดอยู่เพียงรูปเดียว
พระครูปภัสสร เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบทำร้ายร่างกายพระภิกษุและสามเณรจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พระในวัดก็ไม่สามารถออกไปบิณฑบาตรนอกอาณาเขตของวัดได้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัย เพราะยังมีการข่มขู่ทำร้ายทั้งทางโทรศัพท์และลายลักษณ์อักษรจากผู้ไม่ประสงค์ดีอยู่บ่อยครั้ง จึงให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดนำอาหารเข้ามาทำบุญตักบาตรภายในที่วัดในช่วงเช้าแทนรวมถึงวันพระ วันสำคัญต่างๆ ทางศาสนา และวันวิสาขบูชานี้ด้วย
"ที่วัดเขากง นี้ เหลือเพียงอาตมาเพียงรูปเดียวเท่านั้น พระลูกวัดไม่มีแล้วขอย้ายกลับไปอยู่วัดภูมิลำเนากันหมด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อต้นปี 47 จะมีชาวบ้านและเด็กที่อยู่ใกล้วัดเท่านั้นที่มาคอยช่วยงานในวัดและปรนนิบัติบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนเด็กวัดนั้นก็ไม่มีเหมือนกัน" พระครูปภัสสร กล่าว
แม้พระครูปภัสสร จะอยู่ปฏิบัติศาสนกิจที่วัดเขากง เพียงรูปเดียว แต่พระครูปภัสสร ก็บอกว่า ไม่ได้กลัวอะไร เพราะถ้าพระกลัวแล้วญาติโยมจะไปพึ่งพาใครที่ไหนอีก และตนก็จะไม่ย้ายไปไหนจะอยู่ที่วัดนี้ตลอดไปเพื่ออยู่เผยแผ่พุทธศาสนาและคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะนี้รู้สึกดีขึ้น เพราะตำรวจ ทหารแวะเวียนเข้ามาตรวจสอบรักษาความปลอดภัยภายในวัดประมาณ 10 คน เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะพุ่งเป้ามาทำลายพระสงฆ์และพุทธสถาน
"สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พุทธศาสนิกชนโดยเฉพาะส่วนหนึ่งที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดหายไปเป็นจำนวนมาก เหลือเพียงชาวบ้านในพื้นที่ไม่กี่รายเท่านั้นที่ยังคงเดินทางมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาที่วัดแห่งนี้" พระครูปภัสสร กล่าวในที่สุด
นี่คือส่วนหนึ่งจากปัญหาทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ดังนั้น รัฐบาลจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบเข้าไปแก้ไขโดยด่วนที่สุด


[url]http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9470000002178 [/url]
ขึ้นไปข้างบน
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: Fri Jun 04, 2004 02:31    เรื่อง: ตอบโดยอ้างข้อความ

"Religious groups urge use of peaceful ways"

("Bangkok Post," January 29, 2004)

Buddhist, Catholic and Muslim groups have called on the government to use only "peaceful and ethical means" to quell unrest in the deep South.

They also asked the media to be more informative and refrain from giving sensational or distorted reports about the southern situation.

The calls were made in a joint statement made yesterday by the Sekhiyadhamma (Buddhist) group, the Catholic Committee for Justice and Peace, and the Muslim Council of Thailand.

They demanded the government stop using weapons and all kinds of violence in tackling security problems in the three border provinces of Yala, Pattani and Narathiwat.

The government must forge cooperation among all parties to create peace instead of focusing on use of force which could affect innocent people, they said.

Phra Kittisak Kittisopano of the Sekhiyadhamma group said the use of military forces and war weapons, questioning of Muslim religious teachers and raids on Islamic ponoh schools had done more harm than good. Such actions could only lead to more violence and villagers' reluctance to cooperate with state officials, the monk said.

Reverend Wichai Phokkathawi of the Catholic committee said the fatal attacks on Buddhist monks in the South reflected a moral crisis in the country.

Somdech Massalae, secretary-general of the Muslim Council of Thailand, said those who killed monks in the South were outlaws who deserved punishment according to Islamic law.

The violence in the South was not a Muslim religious war, or jihad, as some people claimed since jihad referred to a fight in self-defence against injustice, he said.

The attempts to instigate religious strife in the deep South were similar to what had happened before in India, Afghanistan and Indonesia. He believed the perpetrators were well trained.

"The government and the defence minister knew well that members of international terrorist groups were moving in the South. But, in the wake of violence, only ordinary people have been arrested. I can say that there will be more violence in the future and no masterminds will be arrested," he said.

http://wwrn.org/parse.php?idd=25&c=165
ขึ้นไปข้างบน
เรียงลำดับข้อความตอบจากก่อนหน้า:   
สร้างหัวข้อใหม่   ตอบ    กระดานข่าวเสขิยธรรม -> กระแสโลก ปรับเวลา GMT - 5 ชั่วโมง
หน้า 1 จาก 1

 
ไปที่:  
คุณสามารถสร้างหัวข้อใหม่ได้
คุณสามารถพิมพ์ตอบได้
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์หรือภาพประกอบในกระดานนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์จากกระดานนี้



เสขิยธรรม

Powered by phpBB 2.0.10 © 2001, 2002 phpBB Group